xs
xsm
sm
md
lg

“ธนจิรารีเทล” เตรียมแต่งตัวเข้าตลาดหุ้นปี 63 หลังซื้อ “แคท คิดสตัน” ในไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ธนจิรารีเทลเตรียมแต่งตัวเข้าตลาดหุ้นปี 63 หลังซื้อ CATH KIDSTON ในไทย เชื่อช่วยดันรายได้แตะ 1.8 พันล้านบาท

นายธนพงษ์ จิราพาณิชกุล กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท ธนจิรารีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้นำเข้า และจัดจำหน่ายสินค้าไลฟสไตล์แฟชันจากต่างประเทศ และมีชื่อเสียงของโลก กล่าวว่า บริษัทมีแผนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ภายในปี 63

โดยปีนี้บริษัทเริ่มเตรียมความพร้อมด้วยการศึกษากฎเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และว่าจ้างผู้ตรวจสอบบัญชีที่ได้รับความเห็นชอบจาก ก.ล.ต. จากนั้นในปี 61 จะแต่งตั้งที่ปรึกษาทางการเงิน และคาดว่าจะสามารถยื่นไฟลิ่งได้ในช่วงต้นปี 63 ซึ่งคาดว่าจะพร้อมเข้าจดทะเบียนฯ ได้ในครึ่งปีหลังของปี 63

บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายในปี 63 จะเติบโตแตะ 1,800 ล้านบาท จากการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องให้ครบ 100 สาขา ทั้งสาขาแบรนด์ แพนดอร่า (PANDORA), มารีเมกโกะ (MARIMEKKO) โจนาธาน แอดเลอร์ (JONATHAN ADLER), ทิลด้า (TILDA) และ แคท คิดสตัน (CATH KIDSTON) รวมถึงการเข้าซื้อกิจการ (M&A) ในธุรกิจที่เกื้อหนุนกัน เช่น Food&beverage, แฟชั่นแอนด์ไลฟ์สไตล์ เป็นต้น ที่มีแบรนด์สินค้าเป็นของตัวเอง และต้องให้ผลตอบแทนจากการลงทุนมากกว่า 15% ซึ่งปัจจุบัน บริษัทก็อยู่ระหว่างศึกษาเพื่อเข้าซื้อกิจการในธุรกิจแฟชั่นเข้ามาเพิ่มเติมอีก คาดว่าจะสามารถได้ข้อสรุปและเห็นการลงทุนดังกล่าวได้ในปี 62

ส่วนในปีนี้บริษัทฯ คาดรายได้จะเติบโตราว 1,100 ล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 512 ล้านบาท โดยมีแผนการขยายสาขาแบรนด์ในเครือภายในปีนี้ โดยแบรนด์แพนดอร่า จะขยายเพิ่มอีก 3 สาขา จากเดิม 27 สาขา, มารีเมกโกะ เพิ่มอีก 1 สาขา จากเดิม 5 สาขา, ทิลด้า เพิ่มอีก 1 สาขา จากเดิม 2 สาขา และแคท คิดสตัน เพิ่มอีก 1 สาขา จากเดิมมีอยู่ 35 สาขา โดยกลยุทธ์การขยายสาขาจะเน้นในรูปแบบ Stand alone มากขึ้น วางงบลงทุนดังกล่าวไว้ที่ 6% ของยอดขายรวม

นายธรพงษ์ กล่าวว่า ล่าสุด บริษัทได้เข้าซื้อกิจการ แคท คิดสตัน ในประเทศไทย ซึ่งเป็นแบรนด์ไลฟสไตล์แฟชั่น โดยเข้าซื้อหุ้นทั้ง 100% และได้เริ่มเข้าบริหารงานตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งน่าจะส่งผลดีต่อยอดขายรวมปรับตัวเพิ่มขึ้น ตามแผนงานที่จะเพิ่มจำนวนสาขาขึ้นเป็น 2 เท่า หรือเพิ่มเป็น 70 สาขา จากปัจจุบันอยู่ที่ 35 สาขา

ขณะที่ยอดขายต่อสาขาเดิมของแคท คิดสตัน ในครึ่งปีแรกก็มีการเติบโตขึ้น และคาดว่าในครึ่งปีหลังก็น่าจะเติบโตมากกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากเศรษฐกิจภายในประเทศฟื้นตัวดีขึ้น รวมถึงการดำเนินกลยุทธ์การทำตลาดด้วยการตั้งราคาขายที่เหมาะสม และใกล้เคียงกับประเทศเพื่อนบ้าน ต่างกันบวกลบไม่เกิน 5-10% ส่งผลให้ลูกค้าในประเทศเลือกซื้อสินค้าในประเทศมากกว่าไปซื้อสินค้าที่ต่างประเทศ

สำหรับสัดส่วนรายได้ของบริษัทในปีนี้ คาดว่าจะมาจาก แพนดอร่า (PANDORA) ราว 57%, มารีเมกโกะ (MARIMEKKO) 6%, โจนาธาน แอดเลอร์ (JONATHAN ADLER) 2%, ทิลด้า (TILDA) 1% และแคท คิดสตัน (CATH KIDSTON) 34% จากเดิมที่มีรายได้ 87 : 10 : 2 : 1 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ
กำลังโหลดความคิดเห็น