FSMART มั่นใจผลงาน H2/60 ทำนิวไฮต่อเนื่องจาก H1/60 เตรียมเปิดบริการใหม่ผ่านตู้บุญเติม
นายสมชัย สูงสว่าง กรรมการผู้จัดการ บมจ. ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส (FSMART) คาดว่า ผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรกจะทำสถิติสูงสุดใหม่จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 1 พันล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 183 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายตู้เติมเงิน “บุญเติม” เพิ่มขึ้นได้อย่างมาก โดยในครึ่งปีแรกมีจำนวนตู้เติมเงินบุญเติมทั้งหมดเพิ่มเป็น 110,000 ตู้ จากสิ้นปีก่อนที่มี 92,000 ตู้ และมูลค่าการเติมเงินผ่านตู้บุญเติมยังอยู่ในระดับที่สูงเฉลี่ยอยู่ที่ 34,000 บาทต่อตู้ต่อเดือน ซึ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรกให้เติบโตขึ้น และทำสถิติสูงสุดใหม่
ส่วนในครึ่งปีหลังของปีนี้บริษัทคาดว่า ผลการดำเนินงานยังคงทำสถิติสูงสุดใหม่ในทุกไตรมาสที่เหลือของปีนี้ พร้อมกับวางแผนขยายตู้เติมเงินบุญเติม เพิ่มอีก 12,000 ตู้ เพื่อที่จะทำให้จำนวนตู้เติมเงินบุญเติมในสิ้นปี 60 เป็นไปตามเป้าหมายที่บริษัทตั้งไว้ จำนวน 122,000 ตู้ ขณะที่แนวโน้มการเติมเงินผ่านตู้เติมเงินในช่วงครึ่งปีหลังยังมองว่าอยู่ในระดับที่สูงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งยังมองว่า ยอดการเติมเงินผ่านตู้บุญเติมเฉลี่ยในปีนี้จะอยู่ที่ 32,000 บาทต่อตู้ต่อเดือนตามเป้าหมายที่บริษัทวางไว้ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้รายได้ของบริษัทในปี 60 เติบโตได้ 20% ตามเป้าหมาย
นอกจากนี้ บริษัทจะมีการเปิดบริการใหม่ ๆ ผ่านตู้บุญเติมเพื่อเป็นตัวเลือกที่หลากหลายมากขึ้น โดยจะมีบริการใหม่ที่เปิดในช่วงครึ่งปีหลัง ได้แก่ การเติมเงินสำหรับการสมัครแพกเกจอินเทอร์เน็ตบนมือถือ การเติมเงินสำหรับบริการไลน์เพย์ การเติมเงินเพื่อซื้อสติ๊กเกอร์ไลน์ และการโอนเงินผ่านธนาคารพันธมิตรใหม่อีก 1 แห่ง คือ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ที่คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ไนไตรมาส 3/60
บริษัทยังมีแผนการเดินสายให้ข้อมูลกับนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ (โรดโชว์) โดยกำหนดการโรดโชว์ในเบื้องต้นให้ข้อมูลกับนักลงทุนในงาน Thailand Focus ในเดือน ส.ค. ที่จะถึงนี้ และในวันที่ 19 ก.ย. 60 จะเดินทางไปโรดโชว์ที่ประเทศสิงคโปร์ ร่วมกับ บล. เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย)
โดยที่ผ่านมา บริษัทได้รับความสนใจจากนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศเข้ามาติดต่อแสดงความสนใจเพื่อถือหุ้น FSMART มากกว่า 10 ราย ซึ่งบริษัทยังอยู่ระหว่างการพิจารณา โดยบริษัทมองว่า นักลงทุนมองเห็นโอกาสในการเติบโตของธุรกิจในอนาคต การมีรายได้ประจำที่แน่นอนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และเป็นผู้เล่นหลักในตลาด อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่ได้มีการตั้งเป้าหมายในเรื่องสัดส่วนการถือหุ้นของนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ
“FSMART เป็นหุ้นที่มีมาร์เกตแคปสูงสุดของตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) และได้ถูกคำนวณในดัชนี MSCI ทำให้นักลงทุนมีความมั่นใจ และสนใจลงทุน รวมถึงกองทุนและสถาบันในและต่างประเทศเริ่มหันมาสนใจในธุรกิจเรามากขึ้น” นายสมชัย กล่าว
สำหรับการย้ายเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ของหุ้น FSMART เป็นสิ่งที่บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาช่วงเวลาที่มีความเหมาะสม และขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคณะกรรมการบริษัท และผู้ถือหุ้น เพราะปัจจุบัน มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เกตแคป) ที่ 1.53 หมื่นล้านบาท ซึ่งสูงที่สุดในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) สามารถย้ายเข้าจดทะเบียนใน SET ได้แล้ว
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน บริษัทยังคงมีความภูมิใจเป็นอย่างมากที่อยู่ใน mai และเป็นอันดับ 1 ใน mai ทำให้ในปีนี้บริษัทยังไม่มีแผนการย้ายเข้า SET แม้ว่าการประชุมผู้ถือหุ้นที่ผ่านมา จะมีผู้ถือหุ้นสอบถามคณะกรรมการของบริษัทมาก็ตาม ซึ่งบริษัทคาดว่า ในการประชุมผู้ถือหุ้นที่จะเกิดขึ้นในปี 61 จะมีผู้ถือหุ้นสอบถามคณะกรรมการของบริษัทมาอีกครั้งในเรื่องการย้ายเข้าไปจดทะเบียนใน SET แต่บริษัทยังขอพิจารณาความเหมาะสมอีกครั้ง