หลังจากที่ ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ออล-เวย์ส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มทิสโก้ (ทิสโก้) ได้บรรลุข้อตกลงในการรับโอนธุรกิจลูกค้ารายย่อย (Retail Banking) จากธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) จำกัด (มหาชน) (SCBT) ซึ่งครอบคลุมถึงสินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อธุรกิจรายย่อย สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย บริการธนบดีธนกิจ (Wealth Management) บริการนายหน้าประกันภัย (Bancassurance) เงินฝากรายย่อย และธุรกิจบัตรเครดิต โดยได้รับความเห็นชอบจากธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ตั้งแต่วันที่ 22 ธ.ค. 2559 นั้น
นายศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) (TISCO)กล่าวถึงความคืบหน้าในการรับโอนธุรกิจลูกค้ารายย่อยจากธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) จำกัด (มหาชน) (SCBT)ที่ได้รับความเห็นชอบจากธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.2559 และจะมีกำหนดวันโอนกิจการในวันที่ 1 ต.ค. 2560 ว่า ที่ผ่านมาทั้งสองธนาคารได้ร่วมกันตระเตรียมรายละเอียด กระบวนการ ระบบปฏิบัติการและบุคลากรที่เกี่ยวข้อง เพื่อรองรับการถ่ายโอนธุรกิจรายย่อยให้สามารถบริการลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง โดยได้มีการออกหนังสือตรงถึงลูกค้าเป็นรายบุคคล เพื่อแจ้งให้ลูกค้ารับทราบถึงการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการ รวมทั้งขั้นตอนสำคัญต่างๆ ที่ลูกค้าต้องดำเนินการในการโอนย้ายบัญชี โดยมีกำหนดเวลาให้ลูกค้าสามารถเตรียมเอกสารตามรายละเอียดที่ได้รับแจ้ง มายื่นขอรับบริการที่สาขาของSCBTทุกสาขา ตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค. 2560 เป็นต้นไป โดยจะมีเจ้าหน้าที่ของธนาคารทิสโก้ และ SCBT ร่วมกันอำนวยความสะดวกในการให้บริการเป็นเวลา 3 เดือน
"ปลายเดือนที่ผ่านมาทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันออกหนังสือแจ้งรายละเอียดการเปลี่ยนแปลงผลิตภัณฑ์และบริการส่งไปยังลูกค้ารายย่อยของ SCBT ทุกรายแล้ว โดยแจ้งกำหนดการล่วงหน้าในการยุติการให้บริการประเภทต่างๆ ของ SCBT แนะนำขั้นตอนที่ลูกค้าต้องปฏิบัติ และแนะนำผลิตภัณฑ์/บริการของทิสโก้ที่จะมาทดแทน อย่างไรก็ดี เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องและอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าให้มากที่สุด เราจึงจัดทีมเจ้าหน้าที่ทิสโก้ไปนั่งประจำให้บริการลูกค้าที่สาขาของ SCBT เพื่ออธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ของทิสโก้ที่ลูกค้าจะได้รับ ลูกค้าสามารถเตรียมเอกสารมาดำเนินการโอนบัญชีเพื่อรับบริการและสิทธิประโยชน์ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง"
สำหรับลูกค้าที่ต้องเข้ามาติดต่อสาขาของ SCBT เพื่อโอนย้ายบัญชี ได้แก่ ลูกค้าที่มีบัญชีเงินฝาก (Deposit) หรือทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับบัญชีเงินฝาก เช่น บริการเช็คสำหรับบัญชีเงินฝากกระแสรายวัน บริการหักบัญชีเงินฝากเพื่อชำระค่าสินค้าหรือบริการ ลูกค้าที่ใช้บัญชีเงินฝากในการหักชำระค่าจองซื้อหน่วยลงทุน รับเงินปันผลและเงินค่าขายหน่วยลงทุน ลูกค้าบริการนายหน้าประกันภัยที่ใช้บัญชีเงินฝากชำระค่าเบี้ยประกัน ลูกค้าสินเชื่อที่มีบัญชีเงินฝากเป็นหลักประกัน ทั้งนี้ ลูกค้าควรดำเนินการภายในวันที่ 29 ก.ย.2560 เพื่อให้สามารถทำธุรกรรมได้ต่อเนื่องภายหลังการโอนกิจการ
