รองนายกฯ สมคิด สั่งรัฐวิสาหกิจรายสาขาอิงแผนตามยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อร่วมผลักดันไทยแลนด์ 4.0 เพื่อให้รัฐวิสาหกิจมีบทบาทเข้ามาลงทุนขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ไม่ซ้ำซ้อน และใช้เงินลงทุนเต็มศักยภาพ กำหนดให้ทุกรัฐวิสาหกิจจัดทำแผนให้แล้วเสร็จ 2-3 เดือนข้างหน้า
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี มอบนโยบายให้กับผู้บริการรัฐวิสาหกิจ ในงานสัมมนา “แผนยุทธศาสตร์รัฐวิสาหกิจรายสาขา” เพื่อต้องการให้ทุกรัฐวิสาหกิจจัดทำแผนปฏิบัติการให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ เตรียมความพร้อมทุกด้านในการพัฒนาประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติและนโยบายไทยแลนด์ 4.0 เพื่อให้รัฐวิสาหกิจมีบทบาทเข้ามาลงทุนขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ไม่ซ้ำซ้อนและใช้เงินลงทุนเต็มศักยภาพ กำหนดให้ทุกรัฐวิสาหกิจจัดทำแผนให้แล้วเสร็จ 2-3 เดือนข้างหน้า เพื่อเร่งรัดให้รัฐวิสาหกิจทำแผนรายสาขา เริ่มใช้งบประมาณปี 61 ต้องไม่คำนึงถึงผลกำไรเป็นหลัก จากนั้น จะปรับการวัดผล KPI จากผลการนำนักท่องเที่ยวออกสู่ต่างจังหวัด การเกิดแผนการลงทุน การสร้างเศรษฐกิจใจภูมิภาค โดยจัดทำแผนตามภาระกิจสำคัญ เพื่อร่วมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน
อย่างเช่น ธ.ก.ส. ออมสิน ร่วมจัดหาสถานที่ตลาดประชารัฐ การท่าเรือ เอ็กซิมแบก์ ปล่อยสินเชื่อต้นทุนต่ำเพื่อนำผู้ประกอบการบุกตลาดประเทศเพื่อนบ้าน ทีโอที และ กสท โทรคมนาคม ต้องเร่งรัดวางอินเตอร์หมู่บ้านให้แล้วเสร็จตามกำหนด เพื่อรองรับทั้งการค้า พัฒนาสังคมผ่านอินเทอร์เน็ต ททท. จัดทำแผนส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อกระจายเศรษฐกิจออกสู่ภูมิภาค เพื่อกับหลายหน่วยงานดึงนักท่องเที่ยว เพื่อสร้างเศรษฐกิจในต่างจังหวัดผ่านตัวชี้วัดอย่างชัดเจน ทอท. ต้องเร่งรัดพัฒนาสนามบินต่างจังหวัด อำนวยความสะดวกการเดินทางของนักท่องเที่ยว ตลาดหลักทรัพย์ฯ ส่งเสริมผู้ประกอบการสตาร์ทอัปขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์
นายสมคิด กล่าวว่า รัฐวิสหากิจทั้งระบบมีสินทรัพย์รวมกัน 13 ล้านล้านบาท รายได้รัฐวิสาหกิจทั้งระบบ 5 ล้านล้านบาท งบลงทุน 4.7 แสนล้านบาท นำส่งรายได้เข้าคลัง 1 แสนล้านบาทต่อปี ยอมรับว่าช่วง 1 ปีที่ผ่านมา รัฐวิสาหกิจมีส่วนช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้สูงมาก เงินลงทุนของรัฐวิสาหกิจมากกว่าครึ่งหนึ่งของงบลงทุนทั้งหมด ในไตรมาสแรกของปี 60 เงินลงทุนขยายตัวร้อยละ 17 จากหลายปีขยายตัวเพียงร้อยละ 1 จึงมีส่วนผลักดันจีดีพี เติบโตร้อยละ 3.3 ในไตรมาสแรก ความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติจึงเพิ่มสูงขึ้นมาก ทั้งสหรัฐฯ, จีน, ญี่ปุ่น พร้อมเข้ามาร่วมพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกของไทย ดังนั้น รัฐวิสาหกิจจึงต้องเตรียมพร้อมในทุกด้าน เพื่อรองรับการเข้ามาลงทุนของรัฐวิสาหกิจ
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กล่าวว่า รัฐวิสาหกิจได้ร่วมจัดทำแผนรายสาขาร่วมกัน จึงมอบหมายให้รัฐวิสาหกิจจัดทำแผนระยะเวลา 5 ปี (60-64) เพื่อให้สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ ต้องเสนอกลับมาให้ สคร. พิจารณาในปีนี้ เพื่อเริ่มใช้ในปีหน้า นอกจากแผนดำเนินงานปกติแล้ว รัฐวิสาหกิจยังต้องสร้างทีมติดตามขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์รายสาขา รัฐวิสาหกิจจัดทำสมรรถนะ และความรู้ที่จำเป็น (Skill Matrix) สำหรับกรรมการรัฐวิสาหกิจ เพื่อให้สามารถสรรหาคณะกรรมการที่มีทักษะ และความเชี่ยวชาญเฉพาะ ที่จะช่วยผลักดันให้รัฐวิสาหกิจดำเนินการได้ตามแผนยุทธศาสตร์รัฐวิสาหกิจด้วย เพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง เริ่มประเมินผลในวัน 31 กรกฎาคมนี้
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกาคลัง กล่าวยอมรับว่า ภาคเอกชนมีความสนใจเข้าไปลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษตามแนวชายแดนน้อยมาก เพราะมีภาระต้นทุนการขนส่ง คลังจึงเสนอปรับบทบาทเขตเศรษกิจพิเศษตามแนวชายแดน ใช้ในการส่งเสริมสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เพราะต้องการทั้งแรงงานความรู้ เงินทุนจากท้องถิ่น เพื่อส่งออกไปยังเพื่อนบ้าน กระทรวงคลังจึงเตรียมหารือกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม