ห้องเย็นเอเชี่ยน ซีฟู้ด เล็งโกยรายได้ปีนี้ทะลุหมื่น ล.

ห้องเย็นเอเชี่ยน ซีฟู้ด เล็งโกยรายได้ปี 2560 ที่ 10,500 ล้านบาท โตประมาณ 14% แย้มงบ Q2/60 เครื่องยังดี มั่นใจดีกว่า Q2/59 รับผลดีภายหลังปรับกลยุทธ์ มุ่งให้ความสำคัญกับธุรกิจกำไรงาม และลดความสำคัญสินค้าที่มีความผันผวนวัตถุดิบสูง เช่น ทูน่า ขณะเดียวกัน ไม่หวั่นทิศทางค่าเงินบาทแข็งค่า หลังเน้นเรื่องป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน และมี Natural Hedge จากการนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศบางส่วน

นายเฮ็นริคคัส แวน เวสเทิร์นดรอป ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการเงิน บริษัท ห้องเย็นเอเชี่ยน ซีฟู้ด จำกัด (มหาชน) หรือ ASIAN เปิดเผยว่า บริษัทฯ คงเป้าหมายรายได้ในปีนี้แตะระดับ 10,500 ล้านบาท หรือเติบโตราว 14% จากปี 2559 ที่มีรายได้ 9,206 ล้านบาท

ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 2/60 มั่นใจว่า ดีกว่างวดเดียวกันของปีก่อน สาเหตุเนื่องจากในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ไม่ว่าจะเป็นอาหารแช่เยือกแข็ง ธุรกิจขายอาหารสัตว์ และธุรกิจขายอาหารสัตว์เลี้ยง มีทิศทางการขยายตัวที่ดี
 
“โดยปกติ ผลประกอบการของบริษัทฯ ในงวดไตรมาส 1 และไตรมาส 2 จะเป็นช่วงวงจรธุรกิจขาลง แต่ในปีนี้ พบว่าผลประกอบการไตรมาส 1/60 ขยายตัวได้ดีเกินกว่าคาด และคาดว่าผลประกอบการในไตรมาส 2/60 จะยังคงแสดงให้เห็นว่า ธุรกิจขยายตัวดีเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า รับผลดีภายหลังบริษัทฯ ปรับกลยุทธ์ในการทำธุรกิจ โดยมุ่งให้ความสำคัญกับการขายสินค้าที่มีกำไรดี เช่น อาหารสัตว์เลี้ยง และลดขนาดธุรกิจในสินค้าที่มีความผันผวนทางด้านราคาวัตถุดิบ อย่างเช่น ทูน่า เพื่อรักษาอัตรากำไรขั้นต้นในปี 60 ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ระดับ 9.5%” นายเฮ็นริคคัส กล่าว

ภาพรวมธุรกิจของบริษัทฯ อยู่ในฐานะผู้ประกอบการส่งออก โดยมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศสูงถึง 70% ของรายได้รวม ดังนั้น ผลประกอบการของบริษัทฯ จึงไม่ได้พึ่งพิงกับสภาวะเศรษฐกิจในประเทศ และปัจจุบัน ค่าเงินบาทจะมีแนวโน้มแข็งค่า แต่บริษัทฯ คาดว่า จะได้รับผลกระทบไม่มากนัก เนื่องจากได้ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไว้แล้ว อีกทั้ง บริษัทฯ ได้นำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศบางส่วน ทำให้เกิดการบริหารความเสี่ยงแบบธรรมชาติ (Natural Hedge)
 
ในไตรมาส 1/60 บริษัทฯ มียอดขายที่ 2,482 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 493 ล้านบาท หรือ 25% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มียอดขาย 1,989 ล้านบาท เนื่องจากปริมาณการขายอาหารสัตว์ และอาหารสัตว์น้ำที่เพิ่มขึ้น และราคาขายที่ปรับตัวสูงขึ้นในกลุ่มผลิตภัณฑ์กุ้ง และหมึก
 
ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 1/60 อยู่ที่ระดับ 12.2% เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งอยู่ที่ระดับ 8.6% แม้ว่าต้นทุนในผลิตภัณฑ์กลุ่มกุ้ง หมึก และทูน่า จะสูงขึ้น แต่บริษัทฯ สามารถผลักภาระไปยังผู้ซื้อได้ และสัดส่วนการขายผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เทียบกับผลิตภัณฑ์ทูน่าในบริษัทย่อยมีสัดส่วนดีขึ้น

สำหรับผลการดำเนินงานที่เติบโตทั้งรายได้และกำไร ถือว่าเป็นระดับน่าประทับใจ จากการบริหารจัดการภายในอย่างเต็มที่โดยในไตรมาส 1/60 กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารแช่เยือกแข็ง มียอดขาย 1,141 ล้านบาท เพิ่มขึ้นราว 14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในส่วนของยอดขายกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยงและปลาป่น อยู่ที่ 630 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากยอดขายเชิงปริมาณเพิ่มขึ้นราว 64% สำหรับยอดขายเชิงปริมาณในกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์น้ำทั้งอาหารกุ้ง และอาหารปลา เพิ่มขึ้นอย่างมาก รวมเพิ่มขึ้นราว 60% อยู่ที่ 11.5 พันตัน โดยที่ยอดขายเพิ่มขึ้นราว 44% จากการที่ราคาขายเฉลี่ยต่ำลง เนื่องจากราคาวัตถุดิบ และการปรับปรุงสูตรการผลิต ทำให้ส่วนแบ่งตลาดของกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารกุ้ง เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว เนื่องจากลูกค้าพอใจในคุณภาพอาหาร และการบริการในราคาที่แข่งขันได้