อาร์เค รุ่งกิจเรียลเอสเตท เดินหน้าขยายโครงการระดับซิกเนเจอร์ เปิดตัวโครงการสมาร์ทโฮมออฟฟิศ สุดหรู “The Eiffel” (ดิ ไอเฟิล) มูลค่ารวมกว่า 1.1 พันล้านบาท รองรับกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ ต่อยอดขยายสาขาต้องการออฟฟิศพร้อมที่พักอาศัยบนทำเลสุดฮอตย่านรามคำแหง-มิสทีน
นายวรยุทธ กิตติอุดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท รุ่งกิจ เรียลเอสเตท จำกัด หรือ อาร์เค รุ่งกิจเรียลเอสเตท เปิดเผยว่า บริษัทฯ กำลังเดินหน้าขยายโครงการซิกเนเจอร์อย่างต่อเนื่อง หลังกระแสลูกค้าตอบรับดีจากโครงการที่ผ่านมา ทั้งดิ ฮัมบูร์ก รามอินทรา-รามคำแหง และเดอะรีเจ้นท์ สตรีทลอนดอน รามอินทรา ล่าสุด เปิดตัวโฮมออฟฟิศรูปแบบใหม่ มูลค่ากว่า 1.1 พันล้านบาท บนทำเลธุรกิจรามคำแหง-มิสทีน เพื่อตอบรับความต้องการด้านที่อยู่อาศัย ทำเลการค้า และสำนักงานของกลุ่มลูกค้าเจ้าของกิจการยุคใหม่ โครงการฯ มีเนื้อที่รวมกว่า 37 ไร่ แบ่งเป็น 3 เฟส ซึ่งได้เริ่มทำการก่อสร้างในเฟสแรก 204 ยูนิต เป็นโฮมออฟฟิศ 4 ชั้น จำนวน 71 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 5.99 ล้านบาท และทาวน์โฮม 3 ชั้น จำนวน 133 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 3.39 ล้านบาท สำหรับเฟส 2 จะเป็นโฮม ออฟฟิศ 4 ชั้น 44 ยูนิต ซึ่งจะเริ่มก่อสร้างภายในไตรมาส 3 ปีนี้ ส่วนเฟส 3 เป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น 120 ยูนิต คาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างในกลางปี 2561 และจะเปิดขายในราคาเริ่มต้นที่ 4 ล้านบาท
“บริษัทฯ มองว่า สินค้าประเภทโฮมออฟฟิศ และทาวน์โฮม ยังคงได้รับความนิยมอย่างมาก ยิ่งเป็นโครงการที่ตั้งอยู่ในย่านธุรกิจที่การคมนาคมสะดวกยิ่ง เป็นที่ต้องการของลูกค้า บริษัทฯ มั่นใจว่า โครงการระดับซิกเนเจอร์น้องใหม่ “ดิไอเฟิล” จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และช่วยเพิ่มความคึกคักให้กับตลาดอสังหาฯ ย่านรามคำแหง”
นายวรยุทธ กล่าวถึงโครงการดิ ไอเฟิล ว่ามีจุดเด่นในด้านการก่อสร้าง เพราะหันมาใช้วิธีก่อฉาบ ซึ่งเป็นที่ต้องการอย่างมากของลูกค้าในปัจจุบัน เพราะได้ทั้งความแข็งแรงทนทาน และความละเอียดประณีต ส่วนงานออกแบบก็ได้แรงบันดาลใจจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ที่เป็นเมืองแห่งศิลปะ มีสถาปัตยกรรมหลากหลายยุคสมัย โครงการฯ เลือกคอนเซ็ปต์การออกแบบจากศิลปะยุค “อาร์ตเดโค” (Art Deco) ซึ่งเป็นยุคเฟื่องฟูที่เต็มไปด้วยสไตล์ที่งามสง่า เนื่องจากเป็นดีไซน์ที่ไม่น่าเบื่อ ไม่เก่า ร่วมสมัยอยู่ตลอดเวลา ส่วนภายในเน้นความหรูหราทันสมัย โปร่งโล่งสบายด้วยเพดานสูงพิเศษ 2.8 เมตร ทั้งยังออกแบบให้พื้นที่ทุกตารางนิ้วสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ นอกจากจะมีห้องครัวแล้ว ชั้น 3 และ 4 ยังมีพื้นที่จัดเตรียมอาหาร มีห้องนอนขนาดใหญ่ master bedroom 2 ห้อง ภายในดีไซน์แบบเพนต์เฮาส์ มีพร้อมทุกอย่าง
นอกจากนี้ โครงการ ดิไอเฟิล ยังได้นำพรอพเทคเข้ามาเพิ่มความสะดวกสบาย และความปลอดภัยให้กับผู้อยู่อาศัย เช่น ระบบกันขโมย กล้องวงจรปิด รวมไปถึงระบบโฮมออโตเมชัน ที่ชื่อว่า Life Smart สำหรับควบคุมไฟฟ้า และแสงสว่างภายในบ้านผ่านทางสมาร์ทดีไวซ์ เป็นต้น
โครงการดิ ไอเฟิล ประกอบด้วยแบบบ้าน 5 แบบ ได้แก่ รุ่น A เป็นโฮมออฟฟิศ 4 ชั้น เนื้อที่ 18 ตารางวา พื้นที่ใช้สอยประมาณ 226 ตรม. จำนวน 59 ยูนิต, รุ่น B เป็นโฮมออฟฟิศ 4 ชั้น เนื้อที่ 16 ตารางวา พื้นที่ใช้สอยประมาณ 196 ตร.ม. จำนวน 9 ยูนิต, รุ่น C, D เป็นทาวน์โฮม 3 ชั้น เนื้อที่ 19.37 ตารางวา พื้นที่ใช้สอยประมาณ 196 ตร.ม. จำนวน 133 ยูนิต, รุ่น E เป็นโฮมออฟฟิศ 3 ชั้น บนเนื้อที่ 30 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย ประมาณ 180 ตร.ม. จำนวน 3 ยูนิต
โครงการดิ ไอเฟิล ตั้งอยู่ใกล้แหล่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น เดอะ พาซิโอทาวน์ รามคำแหง, ห้างสรรพสินค้า บิ๊กซี ร่มเกล้า, ห้างสรรพสินค้า บิ๊กซี สุขาภิบาล 3, ห้างสรรพสินค้า เทสโก้ โลตัส สุขาภิบาล 3, สำนักงานเขตสะพานสูง, สวน 60 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ, มหาวิทยาลัยพัฒนบริหารศาสตร์ นิด้า, มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ร่มเกล้า, โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า, สนามกอล์ฟนวธานี, โรงพยาบาลเวชธานี, ตลาดน้ำขวัญ-เรียม, สวนสยาม, ชอคโกแลต วิลล์ นอกจากนี้ โครงการฯ อยู่ติดถนนใหญ่ ห่างจากวงแหวนรอบนอกตะวันออก 300 เมตร อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสายสีส้ม ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี
“บริษัทฯ ได้ดำเนินการก่อสร้างโครงการดิ ไอเฟิล ในเฟสแรกไปแล้ว 10% และได้เปิดขายไปตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยลูกค้าส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ ทำกิจการธุรกิจของตัวเองเพื่อลงทุน เช่น ร้านอาหาร ร้านขนม ร้านเสริมสวย คลินิกทำฟัน โรงแรมสุนัข เป็นต้น จึงทำให้มั่นใจว่า สิ้นปีนี้จะมียอดจองถึง 50% ส่วนภาพรวมธุรกิจของอาร์เค ในปี 2560 นี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าจะเปิดเพิ่มอีก 2 โครงการ ซึ่งจะเริ่มดำเนินการในช่วงกลางปีนี้ เป็นโครงการประเภทบ้านเดี่ยวย่านมีนบุรี หทัยราษฎร์ และย่านรามอินทรา ขณะเดียวกัน ภายในสิ้นปีนี้ก็คาดว่า จะสามารถปิดโครงการดิ ฮัมบูร์ก รามอินทรา-รามคำแหง และโครงการ อาร์เคปาร์ค วัชรพล ไปพร้อมๆ กัน”.
