บมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA Group) ระบุหลังจากการขายทรัพย์สินเข้ากองทรัสต์ 2 กอง ในไตรมาส 4/2559 จำนวน 1.2 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้งบไตรมาส 4/2559 นี้โดดเด่น และได้นำเงินที่ได้จากการขายทรัพย์สินเข้ากองทรัสต์ชำระคืนเงินกู้แก่สถาบันการเงินเรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้บริษัทฯ มีอัตราหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุน (Gearing Ratio) ณ สิ้นปี 2559 ลดลงอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 2 เท่า คาดปี 2560 บริษัทฯ พร้อมลงทุน 4 HUBS เต็มสูบ เพื่อดันเป้ารายได้ปี 2563 แตะระดับ 2.1 หมื่นล้านบาท ตามแผนธุรกิจ 5 ปีของบริษัทฯ
นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA เปิดเผยว่า หลังจากที่ WHA Group ได้มีการขายทรัพย์สินเข้าทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เหมราช (HREIT) ซึ่งประกอบด้วย อาคารโรงงาน และคลังสินค้าสำเร็จรูปใน 6 โครงการที่กระจายอยู่ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี และระยอง คิดเป็นพื้นที่เช่ารวม 261,314 ตารางเมตร แบ่งเป็นอาคารโรงงาน 167,372 ตารางเมตร และอาคารคลังสินค้า 93,942 ตารางเมตร ประกอบด้วย 1.อาคารโรงงานในโครงการนิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด (ระยอง), 2.อาคารโรงงานในโครงการนิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ด, 3.อาคารโรงงานในโครงการนิคมอุตสาหกรรมเหมราชชลบุรี, 4.อาคารคลังสินค้าในโครงการเหมราชโลจิสติกส์พาร์ค 1, 5.อาคารคลังสินค้าในโครงการเหมราชโลจิสติกส์พาร์ค 2 และ 6.อาคารคลังสินค้าในโครงการเหมราชโลจิสติกส์พาร์ค 4 พร้อมทั้งได้มีการขายทรัพย์สินเข้าทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท (WHART) ประกอบด้วย 1) สิทธิการเช่าช่วงที่ดิน และกรรมสิทธิ์ในสิ่งปลูกสร้างของโครงการ WHA Mega Logistics Center (ชลหารพิจิตร กม.5) ตำบลบางปลา อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ และ 2) กรรมสิทธิในที่ดิน และสิ่งปลูกสร้างของโครงการ WHA Mega Logistics Center (ลาดกระบัง) แขวงคลองสามประเวศ เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร
โดยล่าสุด บริษัทฯ ได้โอนทรัพย์สินให้ 2 กองทรัสต์แล้วเสร็จตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ปี 2559 ที่ผ่านมา สำหรับทรัสต์ HREIT และต้นเดือนธันวาคม ปี 2559 ที่ผ่านมา สำหรับทรัสต์ WHART โดยมีมูลค่ารวมจากการขายทรัพย์สิน 12,208.6 ล้านบาท โดยมาจากทรัสต์ HREIT มูลค่า 8,018.6 ล้านบาท และทรัสต์ WHART (เพิ่มทุนครั้งที่ 2) มูลค่า 4,190 ล้านบาท ซึ่งเม็ดเงินดังกล่าว บริษัทฯ จะรับรู้รายได้ในไตรมาส 4/2559 และคาดว่า มีรายได้รวมทั้งปีอยู่ที่ระดับ 17,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามเป้าของบริษัทฯ โดยเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่บริษัทฯ มีรายได้รวมทั้งปีอยู่ที่ 13,102 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้นำเม็ดเงินที่ได้จากการขายทรัพย์สินดังกล่าวไปชำระหนี้เงินกู้กับสถาบันการเงิน ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทฯ มีหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุน (Gearing Ratio) ในปี 2559 ลดลงอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 2 เท่า นอกจากนี้ บริษัทฯ จะใช้เม็ดเงินส่วนที่เหลือเป็นเงินทุนหมุนเวียน และค่าใช้จ่ายในการลงทุนโครงการใหม่ (CAPEX) ในปี 2560
“ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาส 4/2559 มีการเติบโตอย่างโดดเด่น ซึ่งมาจากการรับรู้รายได้จากการเสนอขายทรัพย์สินให้กับกองทรัสต์ 2 กอง และการรับรู้รายได้จากการร่วมทุนกับกลุ่ม Daiwa House ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำด้านอสังหาริมทรัพย์ในประเทศญี่ปุ่น ในการพัฒนาโครงการที่บางนา-ตราด และแหลมฉบัง บวกกับการขยายตัวของนิคมอุตสาหกรรม และการให้เช่าอาคารคลังสินค้าและโรงงานมีการเติบโตตามการเติบโตของเศรษฐกิจมากขึ้น ดังนั้น ผลดำเนินงานในไตรมาส 4 นี้ จะเป็นไตรมาสที่โดดเด่นที่สุดในปีนี้ ”
สำหรับในปี 2560 บริษัทฯ เตรียมนำ บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUP เพื่อเสนอขายหุ้นต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 229.50 ล้านหุ้น และคาดว่าบริษัทฯ มีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นลดลงอยู่ที่ประมาณ 1.3 เท่า นอกจากนี้ บริษัทฯ จะเริ่มพัฒนาพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมในประเทศเวียดนาม ขนาดพื้นที่ประมาณ 20,000 ไร่ จากก่อนหน้านี้ที่มีการลงทุนในการพัฒนาพื้นที่เพื่อสร้างคลังสินค้าในประเทศอินโดนีเซีย ขนาดประมาณ 2.5 หมื่นตารางเมตร สำหรับธุรกิจด้านดิจิตอลจะเริ่มเห็นความชัดเจนด้านการลงทุนมากขึ้นในปี 2560
“บริษัทฯ ยังคงดำเนินแผนธุรกิจใน 5 ปีข้างหน้า ตามที่เคยประกาศไว้ในช่วงก่อนหน้านี้ โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าว่า จะมีรายได้ และส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจร่วมทุนจาก 4 ธุรกิจในปี 2563 ประมาณ 21,000 ล้านบาท”