บล.เอเชีย เวลท์ คาดสัปดาห์นี้ปริมาณซื้อขายเบาบางจากช่วงเทศกาลหยุดปีใหม่ แต่ปัจจัยในประเทศทั้งตัวเลขการส่งออก การเติบโตเศรษฐกิจ และการใช้จ่ายภาครัฐวิสาหกิจ หนุนหุ้นไทยปิดสิ้นปี 1,500-1,523 จุด พร้อมแนะนำลงทุนหุ้น CHG ราคาเป้าหมาย 3.40 บาท
นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ กรรมการผู้จัดการ สายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด กล่าวว่า ตลาดหุ้นสัปดาห์นี้ คาดว่าปริมาณการซื้อขายที่เบาบางทั่วทั้งโลก เนื่องในเทศกาลคริสมาสต์ และปีใหม่ โดยคาดว่านักลงทุนจะไม่ต้องการรับความเสี่ยงเพิ่มมากนักในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของปีก่อนถึงช่วงวันหยุดยาว มองตลาดได้แรงหนุนส่วนหนึ่งจากปัจจัยในประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบวก
โดยกระทรวงพาณิชย์ ล่าสุดมีมุมมองเชิงบวกต่อภาคการส่งออกว่า จะฟื้นตัวในกรอบ 2.5-3.5% ในปีหน้า ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มองเศรษฐกิจปีหน้ามีโอกาสขยายตัวได้มากกว่าที่คาดไว้ที่ 3.2% รวมถึงการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจเพิ่มสูงขึ้นในช่วง 2 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2560 ถึง 32% YoY ถือเป็นความคืบหน้าเชิงบวกอย่างมาก
ทั้งนี้ สำหรับสัปดาห์นี้ คาดกรอบการเคลื่อนไหว SET Index ที่ 1,500-1,523 จุด โดยคาดว่า ตลาดน่าจะปิดสิ้นปีได้ในระดับไม่ต่ำกว่า 1,500 จุด
นายวรุตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในสัปดาห์นี้ Trading Idea ของ บล.เอเชีย เวลท์ แนะนำลงทุนหลักทรัพย์ บมจ.โรงพยาบาลจุฬารัตน์ หรือ CHG โดยมีปัจจัยบวกจาก CHG ที่เติบโตจากการขยายเครือข่ายโรงพยาบาลในอนาคต และความต้องการอย่างต่อเนื่องของบริการทางการแพทย์ โครงการโรงพยาบาลใหม่ของ CHG ประกอบด้วย โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 304 อินเตอร์ และโรงพยาบาลรวมแพทย์ฉะเชิงเทรา ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเปิดให้บริการได้ในปี 61
นอกจากนี้ CHG ยังมีโครงการขยายพื้นที่โรงพยาบาลเดิม ได้แก่ โรงพยาบาลชลเวช และโรงพยาบาลจุฬารัตน์ ระยอง โครงการทั้งหมดนี้ คาดว่าจะช่วยเพิ่มจำนวนเตียงให้บริษัทเป็น 880 เตียง จากปัจจุบัน 582 เตียง ซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถรองรับจำนวนผู้ป่วยได้มากขึ้น
อีกทั้ง จากการที่ CHG มีฐานอยู่ในภาคตะวันออก เรามองว่า อาจได้รับประโยชน์จากโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกของรัฐบาลใน 3 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง เนื่องจากการขยายตัวของธุรกิจ และนิคมอุตสาหกรรมจากโครงการดังกล่าวจะช่วยเพิ่มจำนวนผู้ใช้บริการให้แก่บริษัทเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ การที่ประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ น่าจะเป็นอีกปัจจัยบวกหนึ่งสำหรับ CHG ในระยะยาว
“เราประมาณการอัตราการเติบโตเฉลี่ยระหว่างปี 58-61 ของรายได้จากกิจการโรงพยาบาลว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ 17.2% โดยคาดการณ์กำไรจะเติบโตในปี 59 ที่ 8.1% ปี 60 ที่ 16.0% และปี 61 ที่ 12% และให้ราคาเป้าหมายปี 2560 ที่ 3.40 บาท”
ส่วนด้าน Technical รูปแบบราคาของ CHG ยังคงมีแนวโน้มหลักที่อยู่ในแนวโน้มขาขึ้นจากการเกิดสัญญาณซื้อในรายสัปดาห์ และรายเดือน รอเพียงการกลับมาเกิดสัญญาณซื้อรายวันครั้งใหม่เท่านั้น หาก CHG สามารถปิดตลาดได้ที่ 2.84 บาท
นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ กรรมการผู้จัดการ สายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด กล่าวว่า ตลาดหุ้นสัปดาห์นี้ คาดว่าปริมาณการซื้อขายที่เบาบางทั่วทั้งโลก เนื่องในเทศกาลคริสมาสต์ และปีใหม่ โดยคาดว่านักลงทุนจะไม่ต้องการรับความเสี่ยงเพิ่มมากนักในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของปีก่อนถึงช่วงวันหยุดยาว มองตลาดได้แรงหนุนส่วนหนึ่งจากปัจจัยในประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบวก
โดยกระทรวงพาณิชย์ ล่าสุดมีมุมมองเชิงบวกต่อภาคการส่งออกว่า จะฟื้นตัวในกรอบ 2.5-3.5% ในปีหน้า ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มองเศรษฐกิจปีหน้ามีโอกาสขยายตัวได้มากกว่าที่คาดไว้ที่ 3.2% รวมถึงการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจเพิ่มสูงขึ้นในช่วง 2 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2560 ถึง 32% YoY ถือเป็นความคืบหน้าเชิงบวกอย่างมาก
ทั้งนี้ สำหรับสัปดาห์นี้ คาดกรอบการเคลื่อนไหว SET Index ที่ 1,500-1,523 จุด โดยคาดว่า ตลาดน่าจะปิดสิ้นปีได้ในระดับไม่ต่ำกว่า 1,500 จุด
นายวรุตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในสัปดาห์นี้ Trading Idea ของ บล.เอเชีย เวลท์ แนะนำลงทุนหลักทรัพย์ บมจ.โรงพยาบาลจุฬารัตน์ หรือ CHG โดยมีปัจจัยบวกจาก CHG ที่เติบโตจากการขยายเครือข่ายโรงพยาบาลในอนาคต และความต้องการอย่างต่อเนื่องของบริการทางการแพทย์ โครงการโรงพยาบาลใหม่ของ CHG ประกอบด้วย โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 304 อินเตอร์ และโรงพยาบาลรวมแพทย์ฉะเชิงเทรา ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเปิดให้บริการได้ในปี 61
นอกจากนี้ CHG ยังมีโครงการขยายพื้นที่โรงพยาบาลเดิม ได้แก่ โรงพยาบาลชลเวช และโรงพยาบาลจุฬารัตน์ ระยอง โครงการทั้งหมดนี้ คาดว่าจะช่วยเพิ่มจำนวนเตียงให้บริษัทเป็น 880 เตียง จากปัจจุบัน 582 เตียง ซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถรองรับจำนวนผู้ป่วยได้มากขึ้น
อีกทั้ง จากการที่ CHG มีฐานอยู่ในภาคตะวันออก เรามองว่า อาจได้รับประโยชน์จากโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกของรัฐบาลใน 3 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง เนื่องจากการขยายตัวของธุรกิจ และนิคมอุตสาหกรรมจากโครงการดังกล่าวจะช่วยเพิ่มจำนวนผู้ใช้บริการให้แก่บริษัทเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ การที่ประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ น่าจะเป็นอีกปัจจัยบวกหนึ่งสำหรับ CHG ในระยะยาว
“เราประมาณการอัตราการเติบโตเฉลี่ยระหว่างปี 58-61 ของรายได้จากกิจการโรงพยาบาลว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งที่ 17.2% โดยคาดการณ์กำไรจะเติบโตในปี 59 ที่ 8.1% ปี 60 ที่ 16.0% และปี 61 ที่ 12% และให้ราคาเป้าหมายปี 2560 ที่ 3.40 บาท”
ส่วนด้าน Technical รูปแบบราคาของ CHG ยังคงมีแนวโน้มหลักที่อยู่ในแนวโน้มขาขึ้นจากการเกิดสัญญาณซื้อในรายสัปดาห์ และรายเดือน รอเพียงการกลับมาเกิดสัญญาณซื้อรายวันครั้งใหม่เท่านั้น หาก CHG สามารถปิดตลาดได้ที่ 2.84 บาท