“สมคิด” สั่งเร่งเครื่องขายไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ ระดมทุนเมกะโปรเจกต์ พร้อมติดตามความคืบหน้าแผงลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ปี 60 พร้อมลุย PPP อีก 7 โครงการ เม็ดเงินกว่า 7 แสนล้านบาท
นายชาญวิทย์ นาคบุรี รองผู้อำนวยการและโฆษกสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 15 ธ.ค.2559 นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมคณะกรรมการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์) และคณะกรรมการพิจารณาการร่วมลงทุนภาครัฐ และเอกชน (PPP) เพื่อติดตามความคืบหน้า และแผนการดำเนินการในปีนี้ และปีหน้า
สำหรับการจัดตั้งไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ วงเงิน 1 แสนล้านบาท จะมีการระดมทุนส่วนแรก 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งกระทรวงการคลังเป็นผู้ซื้อหน่วยลงทุนทั้งหมด จะดำเนินการได้ภายในปีนี้ หรืออย่างช้าต้นปีหน้า ส่วนการระดมทุนจากนักลงทุนอีก 9 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะเริ่มได้ในเดือน เม.ย. หรือ พ.ค.2560 เพื่อมาลงทุนในโครงการก่อสร้างทางเส้นใหม่ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.)
“การระดมทุนจากนักลงทุนสามารถทำได้ตั้งแต่ต้นปีหน้า แต่ที่ปรึกษาทางการเงินเห็นว่า ช่วงปลายปี และต้นปีนักลงทุนจะชะลอการลงทุน ดังนั้น จึงเห็นว่า ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ควรเริ่มระดมทุนจากนักลงทุนในไตรมาส 2 ของปีหน้า”
ด้านการประชุม PPP จะมีการติดตามความคืบหน้าแผนการดำเนินการของปี 2559 ซึ่งสามารถทำได้ตามแผน 5 โครงการ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดซื้อจัดจ้าง และจะเริ่มทยอยลงทุน ทำให้มีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจมากขึ้น
นอกจากนี้ การประชุมคณะกรรมการ PPP ที่นายสมคิด เป็นประธานจะมีการสรุปโครงการ PPP ที่จะดำเนินการในปีงบประมาณ 2560 เบื้องต้นมีทั้งหมด 7 โครงการ ซึ่งมีมูลค่ากว่า 7 แสนล้านบาท โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม โครงการสถานีรถไฟบางซื่อ โครงการระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และสถานีขนส่งผู้โดยสารอากาศยานในเมือง หรือแอร์พอร์ตลิงก์ และโครงการรถไฟความเร็วสูง
รายงานข่าวระบุด้วยว่า ในการประชุม ครม.วันที่ 7 ธ.ค.นี้ เช่นกัน สำนักงบประมาณจะเสนอนั้น จะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมากลั่นกรองโครงการของแต่ละจังหวัด ซึ่งเป็นไปตามนโยบายนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ที่ต้องการกระจายงบไปสู่ท้องถิ่นระดับกลุ่มจังหวัดเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยท้องถิ่นเป็นผู้ดูแลจากแทนที่การตัดสินใจจะอยู่ที่ส่วนกลาง
นอกจากนี้ นายสมคิด จะมีการเสนอจัดตั้งกองทุนประชารัฐเพื่อสังคม โดยให้เอกชนและประชาสังคมเป็นตัวนำ ขณะที่ กระทรวงการคลังจะหางบประมาณมาสมทบ โครงการที่มีประโยชน์เพื่อสังคมอย่างแท้จริง พร้อมกันนี้ นายสมคิด ยังย้ำว่า การพัฒนาประเทศต้องได้รับความร่วมมือจากภาครัฐ เอกชน และประชาชน สานพลังประชารัฐ เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ