ตลาดหุ้นไทยปิดช่วงเช้าที่ 1,485.84 จุด เพิ่มขึ้น 7.54 จุด เปลี่ยนแปลง +0.51% มูลค่าการซื้อขาย 21,341.81 ล้านบาท
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ สรุปตลาดหุ้นไทยเช้านี้ (22 พ.ย.) ได้แรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มพลังงานหลังจากที่ราคาน้ำมันได้ปรับตัวขึ้นแรงเมื่อคืน (21 พ.ย.) ตามความคาดหวังว่า กลุ่มโอเปก จะสามารถบรรลุข้อตกลงในการลดกำลังการผลิตร่วมกันได้ในวันที่ 30 พ.ย.นี้ ประกอบกับกองทุน LTF, RMF เริ่มกลับเข้ามาในตลาดฯ มากขึ้น พร้อมคาดการณ์ช่วงบ่ายจะแกว่ง Sideway up โดยมีแนวรับ 1,470-1,475 จุด ส่วนแนวต้าน 1,485 จุด
ขณะที่บทวิเคาะห์ บล.เอเซีย พลัน ระบุนักลงทุนคาดหวังกรณีที่ภาครัฐเตรียมออกมาตรการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยในช่วงปลายปี โดยคาดว่าจะนำเสนอ 3 มาตรการ ประกอบด้วย (1) มาตรการลดหย่อนภาษีฯ จากการท่องเที่ยว ที่พัก และรับประทานอาหารในประเทศ ในช่วง 1 สัปดาห์สุดท้ายของปี ไม่เกิน 1.5 หมื่นบาท (เพิ่มเติมจากมาตรการท่องเที่ยวเดิมในช่วง 1 ม.ค.-31 ธ.ค.2559 อีก 1.5 หมื่นบาท) (2) มาตรการลดหย่อนภาษีฯ จากการซื้อสินค้า และบริการ ช่วง 1 สัปดาห์สุดท้ายของปี ไม่เกิน 1.5 หมื่นบาท (3) มาตรการยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้าเครื่องสำอาง และน้ำหอม เป็นเวลา 2 เดือน ให้ ครม.เห็นชอบ ซึ่งน่าจะช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนได้ส่วนหนึ่ง
หากพิจารณาแรงขายหุ้นไทยตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค.จนถึงปัจจุบันพบว่า เงินทุนต่างชาติไหลออกจากตลาดหุ้นไทยไปแล้วกว่า 4.64 หมื่นล้านบาท และยังมีโอกาสไหลออกต่อเนื่องในช่วงปลายปีจากการที่ Fed มีโอกาสสูงที่จะขึ้นดอกเบี้ยใน ธ.ค.นี้ แต่เชื่อว่าตลาดน่าจะรับรู้ไปมากแล้ว อีกทั้งเม็ดเงินดังกล่าวยังสูงกว่ามูลค่าขายสุทธิเฉลี่ยในไตรมาส 4 ย้อนหลัง 10 ปีไปมากแล้ว จึงทำให้เชื่อว่า แรงขายในช่วงที่เหลือของปีน่าจะเบาลงกว่าที่ผ่านๆ มา
ทั้งนี้ คาดการณ์ช่วงบ่ายดัชนีฯ น่าจะยังยืนได้ในแดนบวกได้ แต่ในกรอบจำกัด เนื่องจากวอลุ่มเทรดยังค่อนข้างน้อย พร้อมให้แนวรับ 1,475 จุด ส่วนแนวต้าน 1,490 จุดแนะนำหาจังหวะสะสมหุ้นพื้นฐานดีเมื่อราคาย่อตัว