นักวิเคราะห์ฯ เผยเดือน ต.ค. ต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยกว่า 1.5 หมื่นล้าน คาดเป็นการย้ายเม็ดเงินรับเฟดขึ้น ดบ. ปลายปี เผยเป็นการปรับพอร์ตเพื่อโยกเงินไปตลาดอื่นๆ ที่มีผลตอบแทนมากกว่าปัจจุบัน แนะนักลงทุนจับตาผลประชุมเฟดเดือน ธ.ค. การเลือกตั้ง ปธน.สหรัฐฯ และการหารือของกลุ่มโอเปก
นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) อาร์เอชบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1-28 ต.ค.2559 นักลงทุนต่างมีการขายหุ้นสุทธิในตลาดหุ้นไทย 15,621 ล้านบาท จากก่อนหน้านี้ซื้อสุทธิมาตลอด เนื่องจากได้รับผลกระทบจากกรณีที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เตรียมพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปลายปีนี้ ทำให้กระแสเงินทุนหรือฟันด์โฟลว์ในตลาดหุ้นของประเทศในเอเชีย รวมทั้งไทย ปรับพอร์ตเพื่อโยกเงินไปตลาดอื่นๆ ที่มีผลตอบแทนมากกว่าปัจจุบัน เช่น การถือเงินสกุลดอลลาร์
นายธนเดช ยอมรับว่า ตอนนี้ต่างชาติปรับพอร์ตลงทุนด้วยการขายสุทธิหุ้น หลังจากหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้นมามากแล้ว โดยอาจโยกเงินไปเก็งกำไรเงินดอลลาร์ หากเฟดขึ้นดอกเบี้ย จะทำให้ค่าเงินแข็งขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่นๆ หรือโยกไปถือพันธบัตรและฝากเงินในธนาคาร เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ในภาพรวมทั้งปี ต่างชาติยังซื้อสุทธิ 116,858 ล้านบาท
สำหรับมูลค่าซื้อขายสะสมหุ้นไทยตั้งแต่วันที่ 1-28 ต.ค.2559 นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 15,621 ล้านบาท กองทุนซื้อสุทธิ 21,086 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 768 ล้านบาท และรายย่อยขายสุทธิ 4,696 ล้านบาท ขณะที่ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-28 ต.ค. นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 116,858 ล้านบาท กองทุนขายสุทธิ 26,007 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 18,282 ล้านบาท และรายย่อยขายสุทธิ 106,133 ล้านบาท
ทั้งนี้ ปัจจัยหลักในสัปดาห์นี้ที่นักลงทุนจับตา 3 ประเด็นหลักๆ ได้แก่ การประชุมเฟดในวันที่ 1-2 พ.ย.นี้ จะมีการส่งสัญญาณการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค.หรือไม่ การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ในวันที่ 8 พ.ย. และกลุ่มโอเปกและประเทศนอกกลุ่มจะประชุมร่วมกันในวันที่ 28-29 ต.ค. หารือรายละเอียดในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันก่อนที่จะเสนอในที่ประชุมโอเปกในวันที่ 30 พ.ย. 2559
รายงานข่าวระบุว่า ในเดือน ต.ค.59 นักลงทุนต่างชาติมีการขายสุทธิหุ้นในภูมิภาคเอเชียต่อเนื่องในหลายตลาด ทั้งไทย เกาหลีใต้ ไต้หวัน อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ เป็นต้น โดยหากรวมตลอดทั้งเดือนแม้ว่าตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นมา แต่กระแสเงินทุนต่างชาติกลับไหลออกจากตลาดหุ้นไทยมากที่สุด เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นอื่นๆ ในภูมิภาค อีกทั้งยังเป็นเดือนที่ต่างชาติมียอดขายสุทธิมากที่สุดในปีนี้ด้วย