สบน.จับตาเงินทุนไหลออก หลังเฟดเตรียมขยับเพิ่มดอกเบี้ย ขณะที่กระทรวงการคลังเตรียมขายพันธบัตรออมทรัพย์ให้ประชาชน 15,000 ล้านบาท 13 ธันวาคม 2559
นายธีรัชย์ อัตนวานิช รองผู้อำนวยการ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) รักษาการในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านตลาดตราสารหนี้ เปิดเผยว่า เมื่อนายทรัมป์ ประกาศนโยบายการฟื้นฟูเศรษฐกิจสหรัฐฯ จึงมีแนวโน้มในการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยระยะยาวมากกว่า 10 ปี อาจปรับเพิ่มตามไปด้วย ดังนั้น เงินทุนของสหรัฐฯ ที่ลงทุนในตลาดตราสารหนี้ของไทย จึงมีแนวโน้มไหลกลับสหรัฐฯ เช่น การซื้อพันธบัตรระยะสั้นของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เมื่อครบกำหนดนักลงทุนต่างชาติจะไม่ซื้อชุดใหม่ เพื่อนำเงินกลับไปลงทุนในสหรัฐ
“กระทรวงการคลังจับตากระแสเงินทุนไหลเข้าออกช่วงนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อปรับกลยุทธ์การระดมทุน เนื่องจากรัฐบาลต้องระดมทุนก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่หลายโครงการปี 2560 ยอมรับว่าปีนี้เป็นปีที่บริหารจัดการภาระหนี้ การระดมทุนยากมากปีหนึ่ง ไม่เหมือนช่วง 2-3 ปีก่อน ซึ่งมีสภาพคล่องล้นระบบ แต่มองว่าเป็นสถานการณ์ที่ไม่น่ากังวลมากนัก”
น.ส.อุปมา ใจหงส์ ผู้อำนวยการ สำนักพัฒนาตลาดตราสารหนี้ สบน. กล่าวว่า หลังจากรัฐบาลกำหนดระดมทุนด้วยการออกพันธบัตรออมทรัพย์จำหน่ายให้กับประชาชนทั่วไปวงเงิน 30,000 ล้านบาทในปี 2560 ดั้งนั้น งวดแรกกระทรวงการคลังเตรียมออกพันธบัตรออมทรัพย์ขายให้กับประชาชนทั่วไประหว่างวันที่ 13 ธันวาคม 2559-9 เมษายน 2560 วงเงิน 15,000 ล้านบาท อายุพันธบัตร 3 ปี เปิดจำหน่ายหน่วยละ 1,000 ถึง 2 ล้านบาทต่อคน เพื่อนำเงินชดเชยขาดดุลงบประมาณประจำปี 2560 สำหรับอัตราดอกเบี้ยจะประกาศให้ทราบอีกครั้ง ขณะที่ผลตอบแทนดอกเบี้ยในตลาดตราสารหนี้อายุ 3 ปี ประมาณร้อยละ 1.7 ดังนั้น สบน. คาดว่า จะกำหนดดอกเบี้ยสูงกว่าตลาดเล็กน้อยจำหน่ายผ่านธนาคารกรุงเทพ กรุงไทย ไทยพาณิชย์ และกสิกรไทย