นับวันที่ดินในเมืองโดยเฉพาะในแนวรถไฟฟ้าจะเหลือน้อยลง ซึ่งหากเรามองไปทางไหนก็จะเห็นแต่การเกิดขึ้นของโครงการคอนโดมิเนียมที่ผุดเป็นดอกเห็ด เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนเมือง และรองรับนักลงทุนชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย
สุขุมวิท เป็นอีกหนึ่งในทำเลศักยภาพที่มีการเติบโตของภาคอสังหาริมทรัพย์อย่างมาก ตลอดแนวรถไฟฟ้าตั้งแต่สายที่เปิดให้บริการ และไล่ไปจนถึงรถไฟฟ้าที่เป็นส่วนต่อขยาย จะปรากฏให้เห็นโครงการคอนโดมิเนียมตั้งตระหง่านเกาะติดรถไฟฟ้า แต่ในความต่าง ก็ยังมีบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ได้พัฒนา Product บ้านใจกลางเมืองเข้ามา เพื่อเป็นทางเลือกให้กลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อ และกำลังมองหาความต่างในตัวสินค้า
โครงการ “ศักยะ 146 เอกมัย” (SAKAYA 146) เป็นอีกหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ถูกพัฒนาขึ้น เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเฉพาะระดับพรีเมียม แล้วเป็นโครงการที่พัฒนา และสร้างเป็นในรูปแบบบ้านเดี่ยว 5 ชั้น เพียงแค่ 4 หลัง ที่ถูกจัดให้เป็นบ้านเดี่ยวในระดับ Super Luxury
........แล้วเหตุใด โครงการนี้จึงน่าสนใจ!
แต่หากลงลึกถึงผู้ก่อตั้งบริษัทด้วยแล้ว มีชื่อเสียงทางสังคม ฐานะทางการเงินที่ค่อนข้างมั่นคง
โครงการ “ศักยะ146 เอกมัย” เป็นโครงการแรกของ บริษัท ศักยะ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ที่ก่อตั้งบริษัทเมื่อปี 2015 โดยนายศิวะศิษฐ์ เลาหพงศ์ชนะ และอาจารย์ ณริช พารานุลักษา (ชื่อเดิม นรินทร์) ด้วยจุดมุ่งหมายที่จะสร้างโครงการที่พักอาศัยสุดหรูบนทำเลที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ ทั้งนี้ บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นในการมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า โดยไม่คำนึงผลกำไรเป็นหลัก ด้วยขนาดของโครงการที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในเมืองที่มีการใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่า ทำให้เราสามารถตอบโจทย์ความต้องการ และไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยในยุคปัจจุบันได้อย่างตรงจุด เรามีความภูมิใจที่จะบอกว่า บริษัท ศักยะ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด คือ นักพัฒนาบูติกที่มีเพียงเป้าหมายสูงสุดในเรื่องของงานฝีมือที่มีคุณภาพ
นายศิวะศิษฐ์ เลาหพงศ์ชนะ เป็นนักธุรกิจที่มีประสบการณ์การทำงานมากมาย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้บริหารที่บริษัท เจ้าพระยาประกันภัย จำกัด (มหาชน), บริษัท อินดัสเทรียล คลีนนิ่ง เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ประกอบกิจการประเภทการบริการทำความสะอาดถังบรรจุน้ำมัน และสารเคมีขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรม, บริษัท รียูซิท์ (ประเทศไทย) จำกัด ดำเนินธุรกิจด้านการประมูลงานราชการ เกี่ยวกับอุปกรณ์ก่อสร้าง, อุปกรณ์ซ่อมบำรุงทาง และอุปกรณ์กู้ภัย
อาจารย์ณริช พารานุลักษา (ชื่อเดิม นรินทร์) จบการศึกษาทางด้านสถาปัตยกรรมจากมหาวิทยาลัย- คอร์เนล และมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐอเมริกา หลังจากจบการศึกษาได้ประกอบอาชีพเป็นสถาปนิก มัณฑนากร และอาจารย์คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในอดีตเคยมีประสบการณ์ด้านการออกแบบที่บริษัท P49 Design and Associates จำกัด, บริษัท ปาล์มเมอร์ แอนด์ เทอร์เนอร์ (ประเทศไทย) จำกัด, Cannon Design Co., Ltd. (สหรัฐอเมริกา) อีกทั้งยังมีผลงานการออกแบบ และก่อสร้างโครงการเพื่อชุมชนแบบไม่หวังผลกำไรอีกด้วย
โดยที่ตั้งโครงการอยู่ในซอย เอกมัย 10 (สุขุมวิท 63) บ้านเดี่ยว 4 หลัง บนพื้นที่ส่วนตัวของโครงการ ที่ดินทั้งหมดขนาด 267 ตารางวา ที่ดินต่อหน่วยขนาด 51-63 ตร.วา พื้นที่ใช้สอยต่อหน่วยขนาด 610-710 ตร.ม. ราคา 49.9-65.3 ล้านบาท ค่าบริหารส่วนกลาง 200 บาทต่อ ตร.วา เงินกองทุนสำรอง 6,000 บาทต่อ ตร.วา (ชำระครั้งเดียว)
ระยะเวลาในการก่อสร้างไตรมาสที่ 4 ของปี 2559-ไตรมาสที่ 2 ปี 2561 โดยมีบริษัท ซีบีอาร์อี ประเทศไทย จำกัด บริหารการขาย
อีกทั้ง ที่ตั้งโครงการยังอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพ ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส เอกมัย ประมาณ 2 กิโลเมตร และยังสามารถเดินทางไปถึงห้างสรรพสินค้าชื่อดังอย่าง Emporium, Emquartier หรือจะไปยังย่านอโศก ก็ได้ เป็นต้น
ผู้พัฒนาโครงการ ศักยะ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด สถาปนิกผู้รับเหมา AAD Design Co., Ltd. หรือ Ayutt and Associates Design โดยคุณอยุทธ์ มหาโสม สถาปนิกมืออาชีพที่มีผลงานการออกแบบโครงการที่พักอาศัยชื่อดัง อาทิ Yenakart Residence, AQ Aria Asoke, Lakeside 113, Pano Penthouse, Petchakasem 79 เป็นต้น
การบริหารจัดการโครงการ บริษัท จี22 วิศวกร และสถาปนิก จำกัด
Project Highlight ออกแบบด้วยดีไซน์สุดหรู และทันสมัย มาพร้อมกับความลงตัวในฟังก์ชั่นของอาคารที่ประกอบไปด้วย
พื้นที่เพดานสูง 2 ชั้น Double-Height ของห้องนั่งเล่น และห้องนอนมาสเตอร์ พื้นที่ชั้น 2 ในลักษณะเปิดโล่ง Open-Plan, ลิฟต์โดยสารแบบสลิง ยี่ห้อ Mitsubishi แบบไม่มีห้องควบคุม ความจุ 4 คน น้ำหนัก 320 กิโลกรัม เคลื่อนที่ด้วยอัตราความเร็ว 1 เมตรต่อวินาที, 4 ห้องนอน พร้อมห้องน้ำในตัว (มีทั้งหมด 5 ห้องน้ำ), 2 ห้องรับแขก, 2 ห้องครัว (โดยที่ Western kitchen เป็นชุดครัวนำเข้าจากแบรนด์ Bulthaup ประเทศเยอรมนี และ Asian kitchen จากแบรนด์ RCD)
สระว่ายน้ำส่วนตัวแบบ Lap-Pool บนพทื้นที่ชั้น 2 (อุปกรณ์เสริม) เป็นสระน้ำเกลือ ขนาด 2 x 9.50 x 1.20 ม. สำหรับ TYPE A และ 3.5 x 4.5 x 1.2 ม. สำหรับ TYPE B, ห้องเอนกประสงค์, พื้นที่สำหรับจัดเก็บของใช้หลายจุดในตัวบ้าน, พื้นที่สำหรับจอดรถยนต์ได้ 4 คัน (1 คันสำหรับรถซูเปอร์คาร์), ระเบียงส่วนตัวในทุกห้องนอน, คอร์ทยาร์ดแนวตั้งกลางแจ้ง, สวนขนาดย่อม 7-8 ตำแหน่ง
ห้องนอนของแม่บ้าน พร้อมห้องน้ำ 1 ห้องที่สามารถเข้าได้จากทางด้านนอก, พื้นจานหมุนอัตโนมัติสำหรับกลับรถ (เฉพาะ Type B), พื้นที่ส่วนกลางเฉพาะสำหรับบ้านเดี่ยวทั้ง 4 หลัง ซึ่งเป็นพื้นที่ปิดเพื่อความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัย พร้อมด้วยที่จอดรถสำหรับผู้มาเยือน จำนวน 3 คัน และมี รปภ.เฝ้ายามตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับคอนเซ็ปต์ของ "ศักยะ146 เอกมัย"
ปัจจุบัน คนไม่ได้มองหาพื้นที่ส่วนตัวแค่ห้องสี่เหลี่ยมอีกต่อไป แต่มองหาพื้นที่ส่วนตัวที่มี “คุณภาพ” สามารถให้อิสระในการใช้ชีวิตได้มากขึ้น และเป็น Space of Living สำหรับเติมเต็มคุณภาพชีวิต โดยเฉพาะคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตระดับหนึ่ง เขาไม่ได้อยากอยู่คอนโดเสมอไป เพราะคอนโดไม่สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการในชีวิตได้ ต่อให้อยู่ในตึกที่มีราคาแพง หรือหรูหรามากแค่ไหน คุณก็ต้องมีการแชร์ผนังห้องกับเพื่อนบ้านอีกอย่างน้อย 3-4 ครอบครัวแน่นอนทั้งด้านซ้ายขวาบน และล่าง ต้องแชร์ที่จอดรถ สระว่ายน้ำ หรือแม้กระทั่งสวนส่วนรวม แล้วพื้นที่ส่วนตัวแบบไหนที่จะสามารถตอบโจทย์ของชีวิตเหมือนคอนโด แต่ต้องได้มากกว่าทำเลที่ตั้งใจกลางเมือง สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ที่เหมือนกับการอยู่คอนโด เช่น มีสระว่ายน้ำ มีห้องยิมออกกำลังกาย มีห้องทำงานห้องสมุด วิวในมุมสูงเหมือนอยู่ตึกสูง แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีพื้นที่บนดินเพื่อทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ที่ล้างรถ ทำสวน ซักล้าง และสำคัญที่สุด คือ ต้องได้อิสระในการใช้ชีวิตที่มากกว่าคอนโดให้ได้ สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ ทำอาหารไทยได้ มีพื้นที่ทำสวนที่มากกว่าพื้นที่ริมระเบียง สิ่งเหล่านี้ คือ ส่วนเติมเต็มในชีวิตที่คุณจะไม่ได้รับ ถ้าอาศัยอยู่ในคอนโด แต่โครงการ SAKAYA 146 Ekamai สามารถเติมเต็มสิ่งเหล่านี้ และให้อิสระในการใช้ชีวิตได้มากกว่า แต่ในขณะเดียวกัน ก็ยังตอบโจทย์การใช้ชีวิตแบบคนเมืองได้อย่างแท้จริง
ที่มาในของการออกแบบ SAKAYA 146 Ekamai
สำหรับการออกแบบ เราเริ่มต้นด้วยคอนเซ็ปต์ “Humancentric” ซึ่งหมายถึงที่สุดแห่งการออกแบบเพื่อ “คน” หรือ “ผู้อยู่อาศัย” อย่างแท้จริง โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากการออกแบบสถาปัตยกรรมของญี่ปุ่น ผสมผสานเข้ากับแนวคิดแบบสแกนดิเนเวียน กล่าวคือ เมื่อเราดูงานออกแบบบ้านจากสถาปนิกญี่ปุ่นชื่อดังทั้งหลาย เราจะเห็นถึงความเรียบง่าย ความคลีน หรือความมินิมอลในการออกแบบเพื่อให้ผู้อาศัยเข้าถึงความสงบ หรือ ZEN ในการใช้ชีวิตได้จริงๆ สำหรับ SAKAYA 146 เราสร้างความรู้สึกสงบแก่ผู้อยู่อาศัย โดยสถาปนิกจะออกแบบรูปลักษณ์ภายนอกโดยใช้สีขาวเป็นหลัก เพื่อรวมทุก elements ไม่ว่าจะเป็นผนังทึบ ผนังโปร่ง หน้าต่าง ประตู เข้าด้วยกัน เพื่อสร้างความรู้สึกที่มินิมอล และคลีน
อีกทั้งยังมีการใช้เส้นสายที่เรียงกันอย่างมีระเบียบของฉากบน FACADE หน้าอาคารที่เอาไว้กันแสงแดด และใช้เป็นฉากสกรีน เพื่อสร้างความเป็นส่วนตัวของเจ้าของบ้านได้อย่างดีเยี่ยมอีกด้วย อีกแนวความคิดที่สะท้อนความเป็นญี่ปุ่น ได้แก่ ความรู้สึกเข้าถึงได้ของมุมมองภายนอกบ้านของโครงการ SAKAYA 146 สถาปนิกของเราตั้งใจทำให้บ้านที่สูงถึง 6 ชั้น เมื่อมองแล้วกลับรู้สึกว่า ดูมีสเกลใกล้เคียงกับบ้านพัก 2 ชั้น กล่าวคือ สถาปนิกเลือกที่จะแบ่ง volume หรือปริมาตรของบ้านทรงสูงนี้ให้เหมือนเป็นบ้านทรงสี่เหลี่ยม 2 หลังมา overlap ซ้อนทับ และเชื่อมต่อกัน เพื่อให้รับกับบริบทที่เป็นชุมชนบ้านเดี่ยวพักอาศัยในละแวกเอกมัย
ส่วนแนวคิดแบบสแกนดิเนเวียน ที่นำผสมผสานกับคอนเซ็ปต์ของญี่ปุ่นนั้น จะถูกนำเสนอไว้ภายในตัวบ้านนั่นคือ การเลือกใช้วัตถุดิบที่มีผิวสัมผัสเป็นธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นพื้นผิวไม้จริงของ Engineering Wood หรือหินอ่อนนำเข้า Black Marquina และ White Venus จากยุโรป โดยเฉพาะห้องนอนทุกห้อง เราใช้พื้นผิวไม้จริง ไม่ใช่ไม้ลามิเนต หรือกระเบื้องเซรามิก ส่วนชั้นของห้องนั่งเล่น และห้องครัว ถึงจะอยู่บนพื้นที่ชั้น 2 แต่ก็ปูด้วยพื้นหินอ่อนนำเข้า Black Marquina ที่เวลาเหยียบลงบนพื้นจะให้ความรู้สึกเย็นสบายเหมือนเดินบนชั้น 1 แนวคิดแบบสแกนดิเนเวียนอีกอย่างที่เคยถูกนำเสนอผ่านผลงานการออกแบบของสถาปนิกชื่อดังอย่าง อัลวา อัลโต (Alvar Aalto) คือ การทำพื้นที่ให้ “คน” ที่อยู่อาศัยในบ้านได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติให้มากที่สุด เชื่อมต่อ Indoor และ Outdoor Living เข้าด้วยกัน ซึ่งการออกแบบนี้จะไม่เห็นจากโครงการอื่น เพราะนั่นอาจหมายถึงการเสียสละพื้นที่ใช้สอยในบ้าน แต่ด้วยความลงตัวในการออกแบบของ SAKAYA 146 ทำให้เราสามารถสร้างสวน POCKET GARDENS ลอยฟ้า ที่มีถึง 8-10 ตำแหน่ง ให้แก่ลูกบ้านได้เลยทีเดียว ซึ่งสวนเหล่านี้ได้ถูกสอดแทรกเข้าไปตามบริเวณระเบียง หรือพื้นที่ชายคาของห้องต่างๆ ในทุกชั้น ราวกับว่าคุณถูกอยู่ท่ามกลางต้นไม้ แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติ ซึ่งเป็นแนวคิดที่สำคัญมากในประเทศแถบสแกนดิเนเวีย
ด้วยความที่เราบริหารการออกแบบพื้นที่ได้เป็นอย่างดี บนชั้น 1 เราจึงกั้นพื้นที่สำหรับจอดรถได้ถึง 4 คัน และ 1 ในนั้น ก็สามารถทำเป็นที่จอดรถสำหรับซูเปอร์คาร์ได้ โดยการกั้นผนังกระจกขึ้นมา และสามารถติดเครื่องปรับอากาศได้ ส่วนพื้นที่อีกครึ่งที่เหลือได้ถูกจัดสรรให้เป็นพื้นที่ของครัวไทยที่ถ้าคุณอยู่คอนโดจะไม่สามารถทำได้แน่นอน อีกทั้งยังมีโซนสำหรับแม่บ้านอย่างครบถ้วน และมีห้องน้ำที่สามารถเข้าได้จากด้านนอกเพื่อพนักงานขับรถ
ดังนั้น คอนเซ็ปต์การออกแบบ “Humancentric” คือ การออกแบบเพื่อตอบโจทย์ความต้องการ และความรู้สึกของ “คน” ที่เป็นผู้ใช้งานอาคารอย่างแท้จริง มันหมดยุคแล้วกับการที่เราจะสร้างบ้านไว้เพื่ออวด หรือให้คนอื่นชื่นชม สำหรับ SAKAYA DEVELOPMENT เราเข้าใจ และคำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงไปของโครงสร้างทางสังคมโดยเฉพาะสังคมครอบครัวในปัจจุบัน ซึ่ง SAKAYA 146 สามารถให้พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้นได้มากถึง 610 ตารางเมตร ที่ไม่มีผนังด้านใดติดกับเพื่อนบ้านเลย และให้ห้องนอน พร้อมห้องน้ำในตัวมากถึง 4 ห้องสำหรับ Type A และ 5 ห้องสำหรับ Type B ถ้าคุณเลือกที่จะเปลี่ยนห้องยิมที่มีห้องน้ำในตัวให้เป็นห้องนอน อีกประเด็นหนึ่งที่เราใช้เป็นตัวอย่างในการตีโจทย์การออกแบบ ได้แก่ การที่เราเห็นว่า คนในสังคมมีการชักชวนเพื่อนฝูง หรือครอบครัวมาสังสรรค์ที่บ้านมากขึ้น หากมีพื้นที่ public รองรับที่ดีพอ เราจึงออกแบบชั้น 2 ให้ดูโล่ง โปร่ง ภายใต้แนวคิดแบบ Open-Plan และแบ่งโซนหน้าบ้านหลังบ้านด้วย Vertical Courtyard หรือสวนแนวตั้ง ซึ่งเป็นเหมือนช่องลมสำหรับรับอากาศภายนอก โดยคอร์ตตรงกลางนี้มีหน้าที่นำแสงธรรมชาติ และเป็นช่องลมเข้าสู่ใจกลางบ้าน และกระจายไปยังทุกห้อง สิ่งเหล่านี้คือการจอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนปัจจุบัน และคอนเซ็ปต์ “Humancentric” นี้ทำให้เราคิด tagline โครงการขึ้นมาว่า “Crafting Life Less Ordinary” กล่าวคือ SAKAYA 146 คือ ผลงานการออกแบบที่เป็นมากกว่าอาคารสิ่งปลูกสร้าง แต่มันคือ การออกแบบชีวิตของผู้อยู่อาศัยอย่างพิถีพิถันที่เน้นความอิสระ และคุณภาพที่ดีเยี่ยม ที่ไม่เหมือนโครงการอื่นๆ อย่างแน่นอน
แผนอนาคตของ ศักยะ ดีเวลลอปเมนท์ ไว้อย่างไร?
อนาคต บริษัท ศักยะ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด จะยังคงมุ่งเน้นที่จะสร้างโครงการบ้านเดี่ยวใจกลางเมืองบนทำเลที่ดีที่สุดของกรุงเทพมหานคร ด้วยงานฝีมือที่มีคุณภาพ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการ และไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่.