อมตะวีเอ็น คาดยอดขายที่ดินต่ำเป้าเหตุปัญหาการเวนคืนที่ดินในจุดเชื่อมต่อเฟสเก่า และเฟสใหม่ ส่งผลให้การขายที่ดินชะงัก ยันไม่ปรับขึ้นราคาขายที่ดินช่วง 2-3 ปีข้างหน้า อยู่ในช่วงเวนคืน ขณะปี 60 ตั้งเป้าขายที่ดิน 20 เฮกตาร์ ในนิคมอุตสาหกรรมเบียนหัว พร้อมเตรียมงบ 3.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อใช้ลงทุนพัฒนานิคม 3 แห่ง
นางสมหะทัย พานิชชีวะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อมตะวีเอ็น จำกัด (มหาชน) หรือ AMATAV เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่า ปีนี้จะมียอดขายที่ดินทำได้เพียง 12.5 เฮกตาร์ ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 25 เฮกตาร์ หลังจากช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ ขายได้เพียง 5.7 เฮกตาร์ เท่านั้น เป็นผลมาจากปัญหาการเวนคืนที่ดินในจุดเชื่อมระหว่างเฟสเดิม และเฟสใหม่ของโครงการของนิคมอุตสาหกรรมเบียนหัว เกิดความล่าช้าทำให้การขายที่ดินชะงัก ซึ่งปัจจุบัน เจ้าหน้าที่ส่วนกลางท้องถิ่นได้เข้ามาดู และเร่งแก้ปัญหา คาดว่าการเวนคืนที่ดินจะแล้วเสร็จช่วงกลางปี 60 ขณะที่มีที่ดินที่อยู่ระหว่างรอการโอนอีก 8.8 เฮกตาร์ปีนี้ แต่มีโอกาสที่ที่ดินพื้นที่ 2 เฮกตาร์ ยังติดปัญหา ส่งผลให้อาจเกิดความล่าช้าในการโอนได้
สำหรับปี 60 บริษัทตั้งเป้ายอดขายที่ดินไว้ที่ 20 เฮกตาร์ ในนิคมอุตสาหกรรมเบียนหัว หลังจากที่ได้เลื่อนการขายเฟสใหม่จากปีนี้ออกไป โดยคาดว่าจะเริ่มลงทุนสาธารณูปโภคอย่างสมบูรณ์แบบในช่วงกลางปี 60 เพื่อให้ลูกค้าสามารถทำการผลิตได้ช่วงไตรมาส 4 ปี 60
นางสมหะทัย กล่าวอีกว่า ปี 60 บริษัทตั้งงบลงทุนที่ระดับ 3.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยใช้ลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมเวียดนามทั้ง 3 แห่ง คือ นิคมอุตสาหกรรมเบียนหัว 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โครงการอมตะซิตี้ลองถั่น 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โครงการอมตะ ทาวน์ ชิพ ลองถั่น 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงลงทุนในโครงการอื่นๆ 300-400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ แหล่งเงินทุนที่ใช้จะมาจากกระแสเงินสดของบริษัท และเงินกู้สถาบันการเงิน ซึ่งปัจจุบัน บริษัทมีความสามารถในการกู้สูง เพราะอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) ต่ำเพียง 0.6 เท่า ขณะที่บริษัทมีนโยบายรักษา D/E ให้ไม่เกิน 1 เท่า
ด้านความคืบหน้าการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมลองถั่น ขณะนี้ได้พื้นที่เฟส 1 มาแล้ว และอยู่ระหว่างการเวนคืนที่ดินในเฟส 2 และเฟส 3 โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จช่วงกลางปี 60 และจะใช้เวลาเข้าไปก่อสร้างพัฒนาพื้นที่เป็นเวลา 6 เดือน ซึ่งประเมินว่า ลูกค้าจะเริ่มดำเนินการผลิตได้ในไตรมาส 4 ปี 60
ส่วนโครงการอมตะซิตี้ ฮาลอง มูลค่า 1.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พื้นที่ 36,000 ไร่ อยู่ระหว่างการขอใบอนุญาตการลงทุนจากภาครัฐ คาดว่ากลางปีนี้จะแล้วเสร็จ โดยจะเริ่มลงทุนเฟสแรก 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พื้นที่ 4,500 ไร่ โดยการลงทุนในโครงการนี้มองว่า “ฮาลอง” เป็นจังหวัดที่ศักยภาพสูง เพราะมีชายแดนติดกับประเทศจีน
“บริษัทจะยังไม่ปรับขึ้นราคาขายที่ดินในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า เนื่องจากอยู่ในช่วงเวนคืนที่ดิน และการปรับขึ้นราคาต้องคำนึงถึงอุปสงค์ และอุปทาน รวมถึงทำเล และคุณภาพของที่ดินด้วย” นางสมหะทัย กล่าว
นางสมหะทัย พานิชชีวะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อมตะวีเอ็น จำกัด (มหาชน) หรือ AMATAV เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่า ปีนี้จะมียอดขายที่ดินทำได้เพียง 12.5 เฮกตาร์ ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 25 เฮกตาร์ หลังจากช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ ขายได้เพียง 5.7 เฮกตาร์ เท่านั้น เป็นผลมาจากปัญหาการเวนคืนที่ดินในจุดเชื่อมระหว่างเฟสเดิม และเฟสใหม่ของโครงการของนิคมอุตสาหกรรมเบียนหัว เกิดความล่าช้าทำให้การขายที่ดินชะงัก ซึ่งปัจจุบัน เจ้าหน้าที่ส่วนกลางท้องถิ่นได้เข้ามาดู และเร่งแก้ปัญหา คาดว่าการเวนคืนที่ดินจะแล้วเสร็จช่วงกลางปี 60 ขณะที่มีที่ดินที่อยู่ระหว่างรอการโอนอีก 8.8 เฮกตาร์ปีนี้ แต่มีโอกาสที่ที่ดินพื้นที่ 2 เฮกตาร์ ยังติดปัญหา ส่งผลให้อาจเกิดความล่าช้าในการโอนได้
สำหรับปี 60 บริษัทตั้งเป้ายอดขายที่ดินไว้ที่ 20 เฮกตาร์ ในนิคมอุตสาหกรรมเบียนหัว หลังจากที่ได้เลื่อนการขายเฟสใหม่จากปีนี้ออกไป โดยคาดว่าจะเริ่มลงทุนสาธารณูปโภคอย่างสมบูรณ์แบบในช่วงกลางปี 60 เพื่อให้ลูกค้าสามารถทำการผลิตได้ช่วงไตรมาส 4 ปี 60
นางสมหะทัย กล่าวอีกว่า ปี 60 บริษัทตั้งงบลงทุนที่ระดับ 3.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยใช้ลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมเวียดนามทั้ง 3 แห่ง คือ นิคมอุตสาหกรรมเบียนหัว 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โครงการอมตะซิตี้ลองถั่น 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โครงการอมตะ ทาวน์ ชิพ ลองถั่น 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงลงทุนในโครงการอื่นๆ 300-400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ แหล่งเงินทุนที่ใช้จะมาจากกระแสเงินสดของบริษัท และเงินกู้สถาบันการเงิน ซึ่งปัจจุบัน บริษัทมีความสามารถในการกู้สูง เพราะอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) ต่ำเพียง 0.6 เท่า ขณะที่บริษัทมีนโยบายรักษา D/E ให้ไม่เกิน 1 เท่า
ด้านความคืบหน้าการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมลองถั่น ขณะนี้ได้พื้นที่เฟส 1 มาแล้ว และอยู่ระหว่างการเวนคืนที่ดินในเฟส 2 และเฟส 3 โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จช่วงกลางปี 60 และจะใช้เวลาเข้าไปก่อสร้างพัฒนาพื้นที่เป็นเวลา 6 เดือน ซึ่งประเมินว่า ลูกค้าจะเริ่มดำเนินการผลิตได้ในไตรมาส 4 ปี 60
ส่วนโครงการอมตะซิตี้ ฮาลอง มูลค่า 1.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พื้นที่ 36,000 ไร่ อยู่ระหว่างการขอใบอนุญาตการลงทุนจากภาครัฐ คาดว่ากลางปีนี้จะแล้วเสร็จ โดยจะเริ่มลงทุนเฟสแรก 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พื้นที่ 4,500 ไร่ โดยการลงทุนในโครงการนี้มองว่า “ฮาลอง” เป็นจังหวัดที่ศักยภาพสูง เพราะมีชายแดนติดกับประเทศจีน
“บริษัทจะยังไม่ปรับขึ้นราคาขายที่ดินในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า เนื่องจากอยู่ในช่วงเวนคืนที่ดิน และการปรับขึ้นราคาต้องคำนึงถึงอุปสงค์ และอุปทาน รวมถึงทำเล และคุณภาพของที่ดินด้วย” นางสมหะทัย กล่าว