xs
xsm
sm
md
lg

เอ็น.ดี.รับเบอร์ งวดนี้กำไรโต 58%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เอ็น.ดี.รับเบอร์ งวดนี้กำไร 18.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57.79% เมื่อเทียบกับช่วงปีก่อน ขณะที่งวด 9 เดือนกำไรสุทธิ 40.76 เพิ่มขึ้น 64.16% อานิสงส์ยอดขายในอินเดียพุ่ง-ตลาดในประเทศฟื้น-ควบคุมต้นทุนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมอนุมัติ ตั้ง “บริษัท แมสเคซี่ เทรดดิ้ง จำกัด” เพื่อจำหน่ายสินค้าสำหรับยางยานพาหนะทุกประเภท และอะไหล่ยานยนต์ หวังเพิ่มช่องทางจัดจำหน่ายสินค้าในประเทศ

นายชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ดี.รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) (NDR) เปิดเผยว่า ผลประกอบการในไตรมาส 3/2559 เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้รวม 221.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.99 ล้านบาท หรือ 9.93% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 201.40 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 18.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.68 ล้านบาท หรือ 57.79% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนทีมีกำไรสุทธิ 11.58 ล้านบาท

ขณะที่งวดผลประกอบการ 9 เดือนของปีนี้มีรายได้รวม 639.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51.19 ล้านบาท หรือ 8.71% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 587.84 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 40.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.93 ล้านบาท หรือ 64.16% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 24.83 ล้านบาท

“ผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ได้รับปัจจัยหนุนจากการที่บริษัทฯ บริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ขณะที่ภาพรวมของธุรกิจก็เป็นไปตามแผนที่เราได้มีการวางเอาไว้ โดยในส่วนของยอดส่งออกสินค้าไปยังประเทศอินเดีย ก็ปรับตัวสูงขึ้น และตลาดภายในประเทศก็เริ่มปรับตัวดีขึ้น และการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ Air Lock (ที่สามารถใช้ทดแทนยางใน) เมื่อปลายเดือนเมษายน 2559 ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค ซึ่งเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้อัตรากำไรโดยรวมปรับเพิ่มขึ้น” นายชัยสิทธิ์ กล่าวส่วนโครงการโซลาร์รูฟท็อปเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้ากำลังการผลิต 1 เมกะวัตต์ สำหรับใช้ภายในโรงงานได้เริ่มผลิตไฟฟ้าแล้วตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนได้กว่า 10% ต่อปีของต้นทุนค่าไฟฟ้า ซึ่ง NDR จะสามารถคืนทุนได้ภายใน 4 ปี

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทฯ มีมติอนุมัติให้จัดตั้งบริษัทย่อย คือ บริษัท แมสเคซี่ เทรดดิ้ง จำกัด ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น 10,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้ 100 บาท/หุ้นเพื่อเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าสำหรับยางยานพาหนะทุกประเภท และอะไหล่ยานยนต์ โดยบริษัทฯ จะเข้าถือหุ้นในบริษัทย่อยดังกล่าวในสัดส่วนร้อยละ 50 ของทุนจดทะเบียน หรือคิดเป็นมูลค่าการลงทุน 5 แสนบาท จากมูลค่าการลงทุนรวมทั้งสิ้น 1 ล้านบาท

ทั้งนี้ วัตถุประสงค์การการลงทุนในบริษัทย่อยดังกล่าว เพื่อเพิ่มช่องทางจัดจำหน่ายสินค้าในประเทศ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ และเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน รวมทั้งทำให้บริษัทฯ มีรายได้ และผลกำไรเพิ่มขึ้นในอนาคต โดยแหล่งเงินทุนในการลงทุนจะมาจากกระแสเงินสดจากการดำเนินการของบริษัท


กำลังโหลดความคิดเห็น