COMAN เข้าเทรดในตลาด mai วันที่ 11 พ.ย.นี้ มั่นใจนักลงทุนตอบรับดี เผยธุรกิจผลิตซอฟต์แวร์สดใส และมีโอกาสเติบโตสูง พร้อมเชื่อมั่นว่า เมื่อหุ้น COMAN เข้าเทรดจะสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีแก่นักลงทุน
นางสาวอนงค์ ยุวะหงษ์ รองกรรมการผู้จัดการ บล.ทรีนีตี้ ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่าย และรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บมจ.โคแมนชี่ อินเตอร์เนชั่นแนล (COMAN) เปิดเผยถึงผลการเปิดจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 34 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท ในราคาหุ้นละ 7.80 บาท ระหว่างวันที่ 2-4 พ.ย. ปรากฏว่า ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างดีเยี่ยม มีผู้สนใจจองซื้อหุ้นของ COMAN เข้ามาเป็นจำนวนมาก คาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 11 พ.ย.นี้
นักลงทุนให้ความเชื่อมั่น COMAN จองซื้อหุ้นไอพีโอในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจที่นักลงทุนมีต่อหุ้น ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และด้วยความโดดเด่นในการเป็นผู้สร้างนวัตกรรมที่มีทรัพย์สินทางปัญญาเป็นของตนเอง ภายใต้ชื่อ “Comanche Hotel Software and Data Base” ประกอบกับแนวโน้มของธุรกิจผลิตซอฟต์แวร์มีโอกาสเติบโตอย่างรวดเร็ว จึงเชื่อมั่นว่าเมื่อหุ้น COMAN เข้าเทรดจะสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีแก่นักลงทุน
นายสมบูรณ์ ศุขีวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร COMAN ผู้ผลิต และพัฒนาโปรแกรมสำเร็จรูปที่ใช้ในโรงแรม และเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ กล่าวว่า เงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ส่วนใหญ่จะใช้เป็นงบประมาณเพื่อเข้าลงทุนในบริษัทซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวเนื่องกัน ส่วนที่เหลือจะใช้เพื่อการลงทุนวิจัย และพัฒนาสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับบริษัทฯ และบริษัทย่อย และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เพื่อรุกตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาด CLMV และในประเทศกำลังพัฒนาด้านธุรกิจโรงแรม และการท่องเที่ยว เพื่อขยายขอบเขตการทำธุรกิจในอนาคต
ทั้งนี้ ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของบริษัทฯ จะเป็นกลุ่มโรงแรมระดับ 3 ดาวขึ้นไป ปัจจุบัน ลูกค้าหลัก ได้แก่ กลุ่มโรงแรม และเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ ชั้นนำกว่า 650 แห่ง 42 กลุ่มเครือโรงแรม และมีจำนวนห้องพักถึง 1 แสนห้อง ทั้งในประเทศ และอีก 17 ประเทศทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก อาทิ จีน ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม ลาว อินเดีย พม่า ญี่ปุ่น และสิงคโปร์
“มองว่าแนวโน้มธุรกิจการผลิตซอฟต์แวร์ไทยมีโอกาสเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ COMAN ที่ทำด้านธุรกิจผลิต และพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ใช้ในโรงแรม และเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ และมีบริษัทย่อยอีก 1 แห่ง คือ บจก.เอ็มเอสแอล ซอฟต์แวร์ (ไทยแลนด์) ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยี Big Data ที่มีศักยภาพในการเติบโตได้อีกมาก” นายสมบูรณ์ กล่าว
สำหรับผลประกอบการในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (ปี 56-58) บริษัทฯ มีอัตราการเติบโตของรายได้จากการขายและบริการจากงบการเงินรวมเฉลี่ยต่อปีที่ 38% และในช่วงเดียวกัน มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 60-70% และอัตรากำไรสุทธิที่ 18-26% สะท้อนให้เห็นถึงผลการดำเนินงานที่มีความแข็งแกร่ง