ศูนย์วิจัย ธ.ไทยพาณิชย์ เตือนนักลงทุนระวังความผันผวนสูงในตลาดหุ้น และตลาดสินทรัพย์เสี่ยง ด้านโบรกเกอร์แนะชะลอการลงทุน คาดสถานการณ์ยังมีความผันผวนในทางลบไปอีก 1-3 เดือน
นางสาวสุทธาภา อมรวิวัฒน์ รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุด ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ หรือ SCB EIC กล่าวว่า นักลงทุนต้องระมัดระวังความผันผวนการลงทุนในตลาดหุ้น ตลาดการเงิน และตลาดตราสารหนี้ เนื่องจากยังมีปัจจัยในประเทศ และปัจจัยต่างประเทศ กดดันทำให้ทิศทางผันผวนสูง นักลงทุนซึ่งมีความอ่อนไหวค่อนข้างมาก เมื่อมีข่าวเข้ามากระทบทำให้มีการเทขายสินทรัพย์เสี่ยง เพื่อลดความเสี่ยง และกลับมาถือเงินสด
ดังนั้น นักลงทุนที่เข้าลงทุนในตลาดหุ้น และสินทรัพย์เสี่ยงประเภทต่างๆ ต้องติดตามข้อมูลอย่างต่อเนื่อง และระวังความผันผวนที่ยังมีอยู่สูง และต้องยอมรับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้
“จากภาวะดอกเบี้ยต่ำมานานกว่า 9 ปี ทำให้นักลงทุนแสวงหาการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูง ดังนั้น จึงมีนักลงทุนเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นเพิ่มมากขึ้น ซึ่งตลาดหุ้นแต่ละประเทศก็มีปัจจัยที่เข้ามากระทบแตกต่างกัน แต่ทุกแห่งมีปัจจัยร่วม คือ ความผันผวนจากตลาดการเงินโลก ซึ่งนักลงทุนต้องระวังความผันผวนที่ยังมีอยู่สูงต่อเนื่อง”
นางสาวสุทธาภา กล่าวว่า แม้ตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวลงมาแรงเมื่อวานนี้ (12 ต.ค.) แต่หากพิจารณาผลตอบแทนจากการลงทุนเทียบกับความเสี่ยง พบว่าตลาดหุ้นไทย และสินทรัพย์เสี่ยงในเอเชีย ยังอยู่ในเกณฑ์ที่น่าสนใจ เนื่องจากให้ผลตอบแทนสูงอยู่ในอันดับต้นๆ ของโลก
ส่วนภาวะตลาดหุ้นไทยเช้าวันนี้ (13 ต.ค.) ดัชนียังปรับตัวลงต่อตั้งแต่เปิดการซื้อขาย โดยลดลงไปต่ำสุดที่ 1,382.36 จุด ลดลง 23.82 จุด หลุดระดับ 1,400 จุด แต่เมื่อดัชนีปรับลงไปมาก ก็มีแรงซื้อกลับมาบ้าง แต่ดัชนียังคงเคลื่อนไหวในแดนลบต่อไป จากความกังวลปัจจัยในประเทศ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศ ยังต้องติดตามแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด ในเดือนธันวาคมนี้.
ขณะที่ บล.ธนชาต ประเมินว่า หลังจากนี้แนวโน้มดัชนีฯ จะมีทิศทางขาลงในวงที่จำกัดขึ้น หลังจากที่ 3 วันทำการที่ผ่านมา ดัชนีร่วงแล้วเกือบ 100 จุด แต่ดัชนียังมีความผันผวนในทางลบไปอีก 1-3 เดือน จากแนวโน้มการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ในเดือน ธ.ค. ที่มีจะมีผลทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าเร็ว และอาจมีความผันผวนของกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายมากขึ้น
ส่วนการเคลื่อนไหวของเงินบาทเช้าวันนี้ เปิดตลาดที่ 35.69-35.73 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ กลับมาแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย หลังจากวานนี้อ่อนค่าสุดในรอบ 8 เดือน จากความกังวลปัจจัยในประเทศ