จากการตรวจสอบปริมาณตราสารหนี้ของ NMG ที่กองทุนรวมถืออยู่ทราบว่า อยู่ในวงจำกัด มีมูลค่า 450 ล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนที่น้อยมาก เมื่อเทียบกับ AUM โดยรวม ทั้งระบบที่มีประมาณ 4 ล้านล้านบาท ในจำนวนนี้มีส่วนที่จะครบกำหนดชำระในวันที่ 12 ตุลาคม 2559 มูลค่า 100 ล้านบาท ซึ่งถือโดยกองทุนรวมของ บลจ. Asset Plus ซึ่ง ก.ล.ต.ได้รับทราบว่า ผู้บริหารของ บลจ.ระบุว่า ได้มีแผนรองรับเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับผู้ถือหน่วยลงทุนทราบเรียบร้อยแล้ว
ส่วนจำนวนที่เหลืออีก 350 ล้านบาท จะทยอยครบกำหนดตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน 2559 ไปจนถึงเดือนมีนาคม 2560 ซึ่งในระยะเวลาจากนี้จนถึงวันที่เริ่มครบกำหนด คาดว่าน่าเป็นเวลาที่เพียงพอที่ NMG จะสามารถดำเนินการ เพื่อให้มีการชำระหนี้ หรือต่ออายุของตราสารหนี้ได้
ก.ล.ต. ขอย้ำว่า ก.ล.ต.ดำเนินการไปตามเงื่อนไขของประกาศที่กำหนดว่า กรรมการที่อยู่ระหว่างถูกดำเนินคดีอันเนื่องจากกรณีที่ ก.ล.ต. กล่าวโทษ จะไม่สามารถเป็นกรรมการของบริษัทจดทะเบียนได้ ซึ่งกรณี NMG นี้ พนักงานอัยการได้สั่งฟ้องบุคคลทั้ง 8 ราย โดยใช้ข้อเท็จจริง และพยานหลักฐานของ ก.ล.ต. ที่กล่าวโทษประธานกรรมการ NMG ในเดือนธันวาคม 2558 ประกอบ โดยอัยการเห็นว่า กรรมการทั้ง 8 รายไม่ปฏิบัติหน้าที่เพื่อรักษาผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นในการประชุมประจำปี 2558 ของ NMG ซึ่งถือเป็นการลิดรอนสิทธิพื้นฐาน ดังนั้น จึงเป็นเรื่องที่เข้าเงื่อนไขของประกาศโดยอัตโนมัติ ไม่ได้เป็นการใช้ดุลพินิจ และกฎหมายไม่ได้เปิดช่องให้ ก.ล.ต. สามารถออกข้อยกเว้น หรือผ่อนผัน เพื่อให้กรรมการบางส่วน หรือทั้งหมดที่ถูกดำเนินการมีสิทธิในการบริหาร หรือทำนิติกรรมในนามบริษัทต่อได้
ซึ่งภายหลังจาก ก.ล.ต.ได้มีหนังสือแจ้งต่อ NMG และกรรมการทั้ง 8 รายให้ทราบในวันที่ 6 ตุลาคม 2559 แล้ว NMG ยังมีช่องทางตามบทบัญญัติมาตรา 83 แห่ง พ.ร.บ. บริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 ซึ่งกำหนดให้กรรมการที่เหลือสามารถจัดประชุมผู้ถือหุ้นภายใน 1 เดือน เพื่อเลือกตั้งกรรมการแทนตำแหน่งที่ว่างทั้งหมดได้ นอกจากนี้ NMG ยังสามารถดำเนินการตามกระบวนการศาล พร้อมทั้งมีคำขอให้ศาลพิจารณามีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวโดยมีเหตุฉุกเฉิน ซึ่งถือเป็นสิทธิอันชอบธรรมที่พึงกระทำได้ เพื่อลดผลกระทบต่อธุรกิจของตน