ภาคเอกชนพร้อมใช้ระบบ Fin Tech ขับเคลื่อน ศก. เชื่อมโยงภูมิภาคเอเชีย แนะภาครัฐต้องหนุนให้มีประสิทธิภาพ และเป็นรูปธรรม ยกระดับความปลอดภัย แก้ไข กม.ให้รัดกุม เปิดโอกาสให้ ปชช.ได้เข้าถึง และทดลองใช้จริง ก่อนเชื่อมโยงต่างประเทศด้วย QR CODE ระหว่างสมาชิก 34 ประเทศ เน้นประสิทธิภาพ และลดความเสี่ยง
นายวรพล โสคติยานุรักษ์ ประธานคณะอนุกรรมาธิการการเงิน การธนาคาร สถาบันการเงินและตลาดทุน สภานิติบัญญัติแห่งชาติ กล่าวบนเวที “ACD Connect Business Forum 2016 & Prime” หรือ “กรอบความร่วมมือเอเชียภาคธุรกิจ” โดยระบุว่า ในอนาคตระบบการเงินอิเล็กทรอนิกส์ หรือฟินเทคจะเข้ามามีบทบาทในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น ดังนั้น กลุ่มประเทศเอเชีย ต้องมีการเตรียมความพร้อม เพื่อรองรับความต้องการในอนาคตของผู้บริโภค
ทั้งนี้ ภาครัฐต้องสนับสนุนการพัฒนาระบบฟินเทคให้มีประสิทธิภาพ และเป็นรูปธรรม ยกระดับความปลอดภัยของระบบ แก้ไขกฎหมายให้รัดกุม พร้อมรองรับการใช้งาน และควรเปิดโอกาสให้มีประชาชนได้เข้าถึง และศึกษาระบบ พร้อมทดลองใช้จริง
นอกจากนี้ ควรส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศผ่านการใช้ QR CODE ในการเข้าถึง และเชื่อมโยงข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกัน ได้เสนอประกาศความร่วมมือระหว่างกัน โดยนำฟินเทคเข้ามาใช้ให้มีบทบาทเชื่อมโยง และพัฒนาเศรษฐกิจ ซึ่งประเทศสมาชิกต้องทำงานร่วมกัน เพื่อเพิ่มศักยภาพ และลดความเสี่ยงในการทำธุรกรรมในกลุ่มประเทศสมาชิกทั้งหมด 34 ประเทศ
ทั้งนี้ ปี 2557 ที่ผ่านมา เศรษฐกิจโลกมีมูลค่าการเติบโต 12,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยภูมิภาคเอเชียมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงสุด เนื่องจากจำนวนประชากรที่มีมากกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนประชากรโลก ระบบฟินเทคจึงถือเป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของเอเชีย และขับเคลื่อนเอเชียสู่ความรุ่งเรืองอย่างยั่งยืน
