ฟอร์ท สมาร์ท ตั้งบริษัทลูกต่อยอดธุรกิจ

ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส โชว์ส่วนแบ่งการตลาด 13% จากมูลค่าตลาดมือถือระบบเติมเงินครึ่งปีแรกกว่า 69,000 ล้านบาท ยืนหยัดแชมป์ผู้ให้บริการตู้เติมเงิน ผู้บริหารชี้การแข่งขันในตลาดช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจมากขึ้น ส่วนเป้ายอดเติมปีนี้คงไว้ที่ 21,000 ล้านบาท จากตู้เติมเงิน 90,000 ตู้ เร่งติดตั้งตู้เติมเงินบุญเติมที่การเคหะฯ วางเป้าเฟสแรก 200 ตู้ พร้อมตั้งบริษัทลูก ฟอร์ท สมาร์ท เทรดดิ้ง รุกธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้องกับตู้บุญเติม

นายสมชัย สูงสว่าง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) “FSMART” ผู้นำช่องทางการชำระเงินที่มีเครือข่ายมากที่สุดในประเทศไทยผ่าน “ตู้เติมเงินออนไลน์บุญเติม” เปิดเผยว่า ปัจจุบัน บริษัทมีมูลค่าการเติมเงินมือถือผ่านตู้บุญเติมมากกว่า 13% ของมูลค่าตลาดมือถือระบบเติมเงินกว่า 69,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากที่ผ่านมา ที่มีประมาณ 11% และยังคงมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ขณะที่บริษัทตั้งเป้ามูลค่าการเติมเงินเติบโตปีละไม่ต่ำกว่า 29% ต่อเนื่องถึงปี 61 ยืนยันได้จากยอดเติมเงินที่ผ่านมา ที่สามารถทำสถิติการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และยังคงรักษาระดับยอดเติมเงินเฉลี่ยต่อตู้ต่อเดือน (ARPU) ให้เติบโตขึ้น

ส่วนการแข่งขันในธุรกิจตู้เติมเงินมือถือที่ปัจจุบันมีผู้ประกอบการหลายรายเข้ามาทำตลาดเพิ่มขึ้นนั้น ไม่กระทบกับเป้าที่ตั้งไว้ และยังส่งผลให้บริษัทขยายตู้ได้มากกว่าแผน ซึ่งช่วยผลักดันโอกาสให้ตู้เติมเงินเพิ่มสัดส่วน และเพิ่มผู้ใช้งานตู้เติมเงินให้มากขึ้น จากการได้ส่วนแบ่งการตลาดจากช่องทางการเติมเงินอื่น เช่น การเติมเงิน แบบ Refill on Mobile (ROM) บัตรเติมเงิน (Scratch Card) และยังมองว่า ปีนี้ตลาดมือถือระบบเติมเงินยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างน้อย 5-10% จากมูลค่าตลาดในปีที่แล้วที่มีมูลค่ากว่า 124,000 ล้านบาท ทำให้บริษัทเชื่อว่า ธุรกิจยังมีโอกาสเติบโตได้อีกในส่วนของบริษัทเองยังคงเดินหน้าขยายจำนวนตู้บุญเติม และยอดเติมเงินเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง จากจุดแข็งในแบรนด์บุญเติมที่ลูกค้าให้ความเชื่อมั่นในคุณภาพการให้บริการมาเป็นเวลากว่า 8 ปี ทำให้ปัจจุบันมีลูกค้ามือถือระบบเติมเงินกว่า 20 ล้านรายเติมเงินผ่านตู้บุญเติม และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

อีกทั้ง การบริหารในรูปแบบแฟรนไชส์ที่ดำเนินการโดยตัวแทน และตัวแทนรายย่อย ทำให้ขยายตู้ได้อย่างมีคุณภาพ รักษายอดเติมเงินต่อตู้ด้วยการคัดเลือกทำเลที่มีศักยภาพ ซึ่งบริษัทมองว่า ตู้ที่มียอดเติมน้อยตัวแทน กับร้านค้าไม่สามารถอยู่ได้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัทแบ่งผลตอบแทนที่เหมาะสมกับทุกฝ่าย ทำให้ระบบนิเวศ ได้แก่ บริษัท ตัวแทนหลัก ตัวแทนรายย่อย มีความสมดุลยั่งยืน และเติบโตได้ในระยะยาว ยืนยันได้จากผลประกอบการในอดีตที่ผ่านมา ยังมีความแข็งแกร่งสามารถรักษาอัตราการทำกำไรได้สม่ำเสมอ

สำหรับการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทยังคงเป้าหมายการติดตั้งตู้บุญเติมทั่วประเทศโดยรวมให้ได้ 90,000 ตู้ และยอดเติมเงินรวม 21,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามแผน แต่ในอนาคตหากบริษัทสามารถสร้างผลงานได้มากกว่าเป้าหมายที่วางไว้ ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีที่ลูกค้าให้ความไว้วางใจที่จะใช้งานผ่านตู้เติมเงินบุญเติมเพิ่มมากขึ้น โดยปัจจุบัน บริษัทการติดตั้งตู้เติมเงินไปแล้วกว่า 20,000 ตู้ จากเป้าหมาย 24,000 ตู้ในปีนี้ ทำให้บริษัทมีจำนวนตู้เติมเงินมากที่สุดกว่า 85,000 ตู้ทั่วประเทศ

ขณะที่สินค้า และบริการที่บริษัทดำเนินการมีอยู่หลายประเภท ได้แก่ ตู้เติมเงินออนไลน์บุญเติม 7 นิ้ว และ 10 นิ้ว พร้อมเครื่องชั่งน้ำหนักที่มีบริการหน้าตู้กว่า 58 รายการ ตู้กดน้ำ RO และเติมเงิน บุญเติมเคาน์เตอร์เซอร์วิสรับเติมเงินมือถือ และชำระค่าสาธารณูปโภค นอกจากนี้ บริษัทยังทดลองติดตั้งสินค้าใหม่ตู้เติมน้ำมันบุญเติมในพื้นที่ต่างจังหวัด เพื่อทดลองตลาด ซึ่งคาดว่าจะสามารถดำเนินการเชิงพาณิชย์อย่างเต็มที่ได้ในปี 2560 เป็นต้นไป โดยบริษัทเชื่อว่าจะช่วยสร้างโอกาส และการเติบโตเพิ่มขึ้น

นายสมชัย กล่าวต่อว่า ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา บริษัททำการลงนามสัญญาธุรกิจร่วมกับการเคหะแห่งชาติ ในการติดตั้งตู้เติมเงินบุญเติม เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับประชาชนผู้พักอาศัย โดยเริ่มจากการเคหะคลองจั่น ที่ติดตั้งไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งถือเป็นเป็นเฟสแรกที่บริษัทคาดว่า จะสามารถตั้งตู้เติมเงินบุญเติมได้ประมาณ 150-200 ตู้ ก่อนศึกษาถึงความเป็นไปได้เพื่อติดตั้งในการเคหะแห่งชาติ ในเฟสอื่นๆ ต่อไป นอกจากนี้ ยังมีการร่วมลงนามสัญญากับโฮมโปร และซุปเปอร์เซฟ เพื่อกระจายตู้เติมเงินทั่วประเทศ

ในส่วนความคืบหน้าล่าสุด บริษัทได้จัดตั้งบริษัทลูก ฟอร์ท สมาร์ท เทรดดิ้ง เพื่อรุกธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้องกับตู้บุญเติม และขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ที่มีระดับรายได้ปานกลาง ด้วยการให้บริการบนแพลตฟอร์มใหม่ๆ และยังได้รับความเชื่อใจจากธนาคารกรุงไทย ในการแต่งตั้งเป็นตัวแทนธนาคาร (Banking agent) และกำลังจะได้รับความเชื่อใจอีกธนาคารในอนาคตอันใกล้

บริษัทยังคงมุ่งมั่นสู่การเป็นผู้ให้บริการจุดรับชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ ด้วยกลยุทธ์ Digital retail channel 5 ช่องทาง ได้แก่ เติมเงินมือถือ เติมเงินออนไลน์อื่นๆ รับชำระบิลต่างๆ ธุรกิจโฆษณา และอีคอมเมิร์ซ ที่ปัจจุบัน สัดส่วนรายได้จะมาจากบริการเติมเงินมือถือ 95% แต่ในอนาคตจะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากบริการอื่นให้มากขึ้นตามลำดับ