“ศุภาลัย” เดินหน้าตามแผน เผยไตรมาส 4 ลุยเปิด 8 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 17,000 ล้านบาท จากยอดเปิดโครงการใหม่ทั้งปี 27 โครงการ มูลค่า 36,000 ล้านบาท มั่นใจยอดขายทั้งปี 24,500 ล้านบาท เผยปีนี้ยอดรับรู้รายได้โครงการแนวราบเกินเป้าที่วางไว้ 13,000 ล้านบาท ล่าสุด เปิดโครงการย่านพระราม 9 ภายใต้ชื่อโครงการ “ศุภาลัย เวอเรนด้า พระราม 9” มูลค่า 4,000 ล้านบาท
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI กล่าวถึงแผนการลงทุนในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2559 (ต.ค.-ธ.ค.) ว่า บริษัทยังเดินหน้าเปิดโครงการใหม่ โดยมีแผนเปิด 8 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 17,000 ล้านบาท แยกเป็น 6 โครงการแนวราบ มูลค่า 6,000 ล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียม 2 โครงการกว่า 11,000 ล้านบาท โดยตามแผนทั้งปีจะเปิดโครงการใหม่ จำนวน 27 โครงการ มูลค่ารวม 36,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 6 โครงการ มูลค่า 19,500 ล้านบาท และโครงการแนวราบ 21 โครงการ มูลค่า 16,000 ล้านบาท
โดยตัวเลขยอดขายรวมทั้งปีจะประมาณ 24,500 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 12,500 ล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียม ซึ่งในปัจจุบันมียอดขายจากโครงการแนวราบที่ 11,000 ล้านบาท คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมียอดขายจากโครงการแนวราบเกินกว่าเป้าหมายที่ได้วางไว้ที่ประมาณ 13,000 ล้านบาท ในส่วนของโครงการคอนโดมิเนียมเนียมปีนี้ บริษัทตั้งเป้ามียอดขายที่ 12,000 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 7,200 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายที่รอรับรู้รายได้ที่ 37,000 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้ไปจนถึงปี 2563 ซึ่งในปีนี้จะรับรู้รายได้ที่ 7,300 ล้านบาท
ล่าสุด บริษัทได้พัฒนาโครงการ “ศุภาลัย เวอเรนด้า พระราม 9” เป็นโครงการคอนโดมิเนียมสูง 31 ชั้น บนพื้นที่กว่า 12 ไร่ จำนวน 1 อาคาร 2 ทาวเวอร์ รวม 1,410 ยูนิต พื้นที่ใช้สอยเริ่ม 30-112 ตารางเมตร มูลค่า 4,000 ล้านบาท ในราคาขายเริ่มต้นที่ 1.85 ล้านบาท ทั้งนี้ คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2563 โดยจะเปิดจองอย่าเงป็นทางการในวันที่ 26 ต.ค.-1 พ.ย.นี้ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรับพลาซ่า แกรนด์ พระรามเก้า
“ที่ดินในทำเลถนนพระรามเก้า ปัจจุบัน ราคาที่ดินอยู่ที่ประมาณ 1.2 ล้านบาทต่อ ตร.ม. และเชื่อว่าจะมีความเจริญมากยิ่งขึ้น เนื่องจากจะเป็นเส้นทางรถไฟฟ้าเอ็มอาร์ที สายสีส้มผ่าน ซึ่งจะเป็นเส้นทางที่เชื่อมกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก (ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี) และกรุงเทพฯ ตะวันตก (ช่วงตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรม) ที่จะสามารถเดินทางเข้าใจกลางกลางเมืองในย่านธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว ด้วยระบบรถไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม เชื่อในทำเลนี้จึงเหมาะกับการลงทุนเพื่อพัฒนาโครงการอสังหาฯ เป็นอย่างมาก”