ศุภาลัยฯ เผยรายได้รวมไตรมาสแรก 6,130.74 ล้านบาท เพิ่มจากไตรมาสแรกปีก่อนหน้า 1,211.19 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 25% ส่วนกำไร 493.51 เติบโต 55% จากไตรมาสแรกของปีก่อน ด้านโนเบิลฯ แจงไตรมาสแรกขาดทุน 137.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก Q1/58 กว่า 33.82% เหตุไม่มีการเปิดขาย และรับรู้รายได้จากโครงการใหม่
นางวารุณี ลภิธนานุวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ Spali กล่าวถึงผลการดำเนินงานของไตรมาส 1/2559 ว่า ในไตรมาสนี้บริษัทมีรายได้จากการขายรวม 6,130.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งมีรายได้ 5,030.6 ล้านบาท 1,211.19 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 25% โดยเกิดจากการโอนกรรมสิทธิ์อาคารชุด 51% ซึ่งมาจากการโอนกรรมสิทธิ์ในโครงการอาคารชุด 2 โครงการ ส่วนที่เหลือ 49% มาจากการโอนกรรมสิทธิ์บ้านเดี่ยว และทาวน์เฮาส์
ขณะที่กำไรสุทธิ์ในไตรมาสแรกของปีนี้อยู่ที่ 1,396.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 493.51 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 55% เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของภาครัฐ ส่งผลให้มียอดโอนเพิ่มสูงขึ้น ขณะเดียวกัน ก็ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นด้วย
ด้านนายสิทธิ์ ลีละเกษมฤกษ์ กรรมการบริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOBLE กล่าวว่า ในไตรมาสแรกของปีนี้บริษัทมีผลการดำเนินงานรวมขาดทุน 137.90 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่ผลขาดทุนรวมที่ 104.18 ล้านบาท หรือมีผลขาดทุนเพิ่มขึ้น 33.82% โดยสาเหตุหลักเกิดจากในปีไตรมาสนี้บริษัทไม่ได้มีการเปิดตัวโครงการใหม่ทำให้ไม่มียอดรับรู้จากโครงการใหม่เข้ามา ขณะที่บริษัทยังมีค่าใช้จ่ายด้านการขาย และการบริหารงานที่เพิ่มสูงขึ้น โดยค่าใช้จ่ายดังกล่าวในไตรมาสนี้อยู่ที่ 148.79 ล้านบาท เพิ่มจากไตรมาสแรกของปีก่อนหน้า ซึ่งมีค่าใช้จ่าย 143.35 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้บริษัทจะมีการโอนห้องชุดในโครงการเก่าที่จะมีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จในปีนี้เข้ามาในช่วงครึ่งหลังของปี โดย ณ ปัจจุบัน บริษัทมีแบ็กล็อกรอรับรู้รายได้ในมือ 21,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นยอดขายจากโครงการโนเบิล เพลินจิต ซึ่งจะก่อสร้างแล้วเสร็จ และทยอยรับรู้ในปีนี้