xs
xsm
sm
md
lg

“โกลเบล็ก” มองดัชนีเด้งรับส่งออกโต ให้กรอบ 1,480-1,505 จุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


บล.โกลเบล็ก มองหุ้นไทยได้แรงหนุนจากตัวเลขส่งออกเดือน ส.ค. พลิกเป็นบวก 6.5% ครั้งแรกในรอบ 5 เดือน และ BOJ เดินหน้ามาตรการทางการเงินต่อ หวังลดระดับเงินเฟ้อให้อยู่ที่ 2% ให้กรอบดัชนี 1,480-1,505 จุด แนะซื้อสะสมหุ้นกลุ่มโรงพยาบาล-สื่อสาร-ปิโตรเคมี คาดมีโอกาสทำ Window dressing ด้วยราคาที่ต่ำว่า SET ด้านราคาทองคำอยู่ในช่วงพักฐาน หลังจากปรับขึ้นแรง รับปัจจัยเฟดยังไม่ขึ้นดอกเบี้ย มีแนวรับ 1,310-1,305 เหรียญสหรัฐต่อทรอยออนซ์ และแนวต้าน 1,360-1,365 เหรียญสหรัฐต่อทรอยออนซ์

นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยบวกจากแนวโน้มจีดีพีปีนี้ที่น่าจะขยายตัวดีกว่าคาดการณ์เมื่อต้นปี เห็นได้จากหลายสำนักทยอยปรับเพิ่มคาดการณ์จีดีพีไทยปีนี้ ประกอบกับตัวเลขการส่งออกเดือน ส.ค.59 ที่เพิ่มขึ้น 6.5% พลิกเป็นบวกครั้งแรกในรอบ 5 เดือน และมีการขยายตัวสูงสุดในรอบ 6 เดือน ส่งให้การส่งออกในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้หดตัวน้อยลงเหลือ 1.2% จากที่หดตัว 2% ในช่วง 7 เดือนแรกของปี รวมถึงการที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ยืนยันเดินหน้าผ่อนคลายการเงินต่อไปหากจำเป็น เพื่อบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% และการทำ Window Dressing ปิดงบไตรมาส 3/2559 ช่วงปลายเดือนกันยายน

อย่างไรก็ดี กรณีธนาคารดอยซ์แบงก์ ถูกรัฐบาลเยอรมนี ปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือค่าปรับ 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่สหรัฐฯ เรียกร้อง และกระแสคาดการณ์ว่า การประชุมนอกรอบของกลุ่มผู้ผลิตน้ำมัน จะไม่ได้ข้อตกลงการตรึงกำลังการผลิตเป็นปัจจัยลบต่อตลาดหุ้นไทยได้ ทั้งนี้ มีปัจจัยสำคัญที่ต้องจับตาในวันที่ 26-28 ก.ย. กลุ่มโอเปก เตรียมจัดการประชุมอย่างไม่เป็นทางการ เพื่อหารือถึงวิธีสร้างเสถียรภาพของราคาน้ำมัน และวันที่ 30 ก.ย. ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย

นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยขาดปัจจัยใหม่กระตุ้นการลงทุนหลังทราบผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ และธนาคารกลางญี่ปุ่น ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยไปแล้ว อย่างไรก็ตาม การทำ Window Dressing เพื่อปิด NAV ในช่วงไตรมาส 3/2559 รวมถึงการประชุมนอกรอบของกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันในวันที่ 26-28 ก.ย. น่าจะช่วยหนุน Sentiment ตลาดได้

ดังนั้น ประเมินว่า SET แกว่งตัวในกรอบ 1,480-1,505 จุด ทั้งนี้ แนะนำซื้อแบบ Selective Buy ได้แก่กลุ่ม HEALTH ICT PETRO คาดว่าเป็น sector ที่มีโอกาสทำ Window dressing เนื่องจาก Underperform SET กลุ่มน้ำตาล ได้รับอานิสงส์ราคาน้ำตาลพุ่งทำ High ในรอบ 4 ปี กลุ่มเดินเรือ ได้รับประโยชน์จากค่าระวางทำ High ในรอบปี แนะนำ TTA PSL รวมถึง BANPU ที่ได้รับอานิสงส์จากราคาถ่านหินปรับขึ้นทำ High ในรอบ 2 ปี

สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ นายสุทธิพงษ์ ศรีพรประเสริฐ นักวิเคราะห์การลงทุน บล.โกลเบล็ก เปิดเผยว่า ราคาทองคำปรับขึ้นมาแรงในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขานรับข่าวคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติในการประชุมช่วงวันที่ 20-21 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอยู่ในช่วง 0.25-0.50% ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้

อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำเริ่มมีการพักตัวในกรอบแคบ หลังจากขึ้นแรงจากแรงกดดันที่ว่า ประธานเฟด สาขาบอสตัน ออกมาให้ความเห็นว่า เฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปในขณะนี้ ขณะที่นักลงทุนเชื่อว่า เฟดอาจขึ้นดอกเบี้ย 0.50-0.75% ในการประชุม FOMC เดือน ธ.ค.นี้ โดยความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน พ.ย. อยู่ที่ 12% เดือน ธ.ค. อยู่ที่ 54% และเดือน ก.พ. อยู่ที่ 57%

ทั้งนี้ ปัจจัยที่ต้องจับตา ได้แก่ สถานะทางการเงินของดอยซ์แบงก์ หลังสหรัฐฯ เรียกร้องให้ดอยซ์แบงก์ จ่ายค่าปรับเป็นเงิน 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อยุติการสอบสวนในคดีที่เกี่ยวข้องกับการจำหน่ายหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (MBS) ขณะที่รัฐบาลเยอรมนี เมินให้ความช่วยเหลือด้านการเงินต่อดอยซ์แบงก์

สำหรับแนวโน้มราคาทองโลกด้านเทคนิค ราคาพักตัวออกข้างที่อยู่ในแนวแขนรูปแบบ Bullish Flag ระยะสั้น ที่ซ้อนอยู่ในแนวขึ้นรูปแบบ Double Bottom ขณะที่มีแนวรับหนุนจากสัญญาณบวก Golden Cross ทำให้ราคาแนวโน้มพักตัวเพื่อปรับขึ้นต่อ โดยมีแนวรับ 1,310-1,305 เหรียญสหรัฐต่อทรอยออนซ์ และแนวต้าน 1,360-1,365 เหรียญสหรัฐต่อทรอยออนซ์


กำลังโหลดความคิดเห็น