xs
xsm
sm
md
lg

คาดหุ้นไทยแกว่งผันผวนขาขึ้น โดยมีแรงหนุนปัจจัย ตปท. และภาพรวม ศก.ดีขึ้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


GBS มองหุ้นไทยแกว่งผันผวนขาขึ้น โดยมีแรงหนุนปัจจัยต่างประเทศ และภาพรวม ศก.ดีขึ้น พร้อมให้กรอบ 1,480-1,510 จุด ส่วนความสนใจในทองคำอาจลดลง เพราะนักลงทุนหันไปลุยสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น

น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก (GBS) ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยบวกจากปัจจัยต่างประเทศในเรื่องกระแสข่าวดอยซ์แบงก์ ใกล้บรรลุข้อตกลงกับสหรัฐฯ เกี่ยวกับการจ่ายค่าปรับผ่อนคลายความกังวลของนักลงทุน รวมถึงราคาน้ำมันทรงตัวระดับสูงราว 48 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หลังกลุ่มผู้ผลิตน้ำมัน มีมติลดกำลังการผลิตลงสู่ 32.5-33 ล้านบาร์เรลต่อวัน รวมทั้งผลสำรวจของ Fox News ล่าสุด ระบุว่า นางฮิลลารี ยังมีคะแนนนิยมนำนายทรัมป์ ที่ 43% ต่อ 40%

ส่วนปัจจัยบวกภายในประเทศ ได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัวดีขึ้น การส่งออกในเดือน ส.ค.ขยายตัวครั้งแรกในรอบ 5 เดือน โดยเพิ่มขึ้น 6.5% รายได้ภาคเกษตรที่ดีขึ้น ส่งผลให้หลายสำนักวิจัยต่างปรับประมาณการจีดีพีปีนี้เพิ่มขึ้นจากตัวเลขคาดการณ์ครั้งก่อนหน้า ซึ่งเป็นบวกต่อภาวะการลงทุน

ส่วนปัจจัยที่ยังคงกดดันการลงทุน คือ นายกรัฐมนตรีอังกฤษมีแผนจะเริ่มกระบวนการ Brexit สิ้นเดือนมีนาคม 2560 และกรณีที่ รมว.คลังรัฐอิลลินอยส์ ประกาศระงับการทำธุรกรรมการลงทุนวงเงิน 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ กับธนาคารเวลส์ ฟาร์โก หลังถูกปรับ 185 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการที่เปิดบัญชีลูกค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตกว่า 2 ล้านบัญชี

แนะนำจับตาการ Preview งบไตรมาส 3/2559 ของกลุ่มธนาคารที่มีกำหนดส่งภายในวันที่ 21 ต.ค. ในวันที่ 6 ต.ค. สหรัฐฯ มีกำหนดเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และเช้าวันที่ 10 ต.ค. ตามเวลาในไทย เป็นการดีเบตรอบประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งที่ 2

ด้าน นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ GBS กล่าวว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันที่ทรงตัวระดับสูงขึ้น และการ Preview งบไตรมาส 3/59 ของกลุ่มธนาคาร รวมถึงกระแสข่าวการเจรจาลดค่าปรับของ ธ.ดอยซ์แบงก์ เป็นแรงหนุนต่อทิศทางการลงทุน อย่างไรก็ตาม การดีดตัวของดัชนีจะถูกจำกัดด้วยแรงกดดันจากสัญญาณเทคนิครวมถึง Volume ซื้อ/ขายที่ค่อนข้างบาง

ดังนั้น ประเมินว่า SET จะผันผวนขาขึ้น โดยมีกรอบการเคลื่อนตัวที่ 1,480-1,510 จุด แนะนำซื้อแบบ Selective Buy กลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน ได้แก่ กลุ่มธนาคารที่ปล่อยสินเชื่อ Leasing สูง คาดกำไรไตรมาส 3/59 เติบโตขึ้นจากการตั้งสำรองลดลง แนะนำ TCAP, KKP และ TISCO ส่วนกลุ่มพลังงานได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันทรงตัวระดับสูง หลังกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันมีมติลดกำลังการผลิตลง รวมถึงราคาถ่านหินขึ้นทำ High ในรอบ 2 ปี ล่าสุด 81.1 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน หลังจีนเร่งแก้ปัญหาโอเวอร์ซัปพลาย แนะนำ BANPU

สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ นายสุทธิพงษ์ ศรีพรประเสริฐ นักวิเคราะห์การลงทุน GBS เปิดเผยว่า ราคาทองคำปรับลงต่อเนื่องในสัปดาห์ที่ผ่านมา จากความกังวลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังส่งสัญญาณว่า อาจขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้หากเศรษฐกิจยังเดินหน้าในระดับปัจจุบัน

ขณะที่ประธานเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย และประธานเฟดสาขาแอตแลตตา รวมถึงประธานเฟดสาขาแคนซัสซิตี ได้ออกมาสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ด้วยเช่นกัน โดยล่าสุด นายเจฟฟรีย์ แลคเกอร์ ประธานเฟดสาขาริชมอนด์ กล่าวว่า เหตุผลสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยกำลังมีน้ำหนักมากขึ้น โดยเฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างมาก เพื่อทำให้เงินเฟ้ออยู่ภายใต้การควบคุม กดให้ราคาทองคำร่วงลงอย่างหนักกว่า 3% ในคืนวันที่ 4 ต.ค.นี้

อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในเดือน ก.ย. ได้เพิ่มความกังวลว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้มากขึ้น และยังรวมถึงความกังวลปัญหาด้านการเงินของดอยซ์แบงก์ลดลง จากกระแสข่าวว่า ดอยซ์แบงก์ใกล้บรรลุข้อตกลงกับกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เกี่ยวกับการจ่ายค่าปรับเพียง 5.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อยุติการสอบสวนในคดีที่เกี่ยวข้องกับการจำหน่ายหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (MBS) ซึ่งเป็นต้นเหตุของวิกฤตการเงินโลกในปี 2551 ซึ่งลดลงอย่างมากจากเดิมที่ดอยซ์แบงก์ จะต้องจ่าย 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้กับทางสหรัฐฯ ส่งผลให้นักลงทุนลดการลงทุนในทองคำ

สำหรับแนวโน้มราคาทองโลกด้านเทคนิค ราคาปรับลงตามแนวต้านเส้น 5 วัน และ 10 วัน ที่ยังคงสัญญาณ DEAD CROSS ประกอบกับค่าสัญญาณทางเทคนิคที่เป็นลบ ทำให้ราคาแนวโน้มปรับลงต่อเข้าหาฐานแนวการพักตัวหลัก โดยมีแนวรับ 1,250-1,245 เหรียญสหรัฐต่อทรอยออนซ์ และแนวต้าน 1,300-1,305 เหรียญสหรัฐต่อทรอยออนซ์


กำลังโหลดความคิดเห็น