อนันดาฯ จับมือ TCDC ทุ่มงบ 50 ล้านบาท สร้างห้องสมุด “TCDC COMMONS” ในโครงการโครงการคอนโดมิเนียม “ไอดีโอ คิว จุฬา-สามย่าน” หนุนนโยบายรัฐขับเคลื่อนประเทศ ภายใต้โมเดล “ไทยแลนด์ 4.0” หวังสร้างความได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบของประเทศไทยด้านความหลากหลายทางชีวภาพ และ ความหลากหลายเชิงนวัตกรรม
นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ได้บรรลุข้อตกลงความร่วมมือกับ TCDC ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเรียน และแหล่งค้นคว้าข้อมูลด้านการออกแบบ และความคิดสร้างสรรค์ให้กับส้งคมไทย โดยใช้งบลงทุนกว่า 50 ล้านบาท ในการสร้างห้องสมุดที่ทันสมัยที่สุด ภายใต้ชื่อ “TCDC COMMONS” ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณชั้น 3 ของโครงการคอนโดมิเนียม “ไอดีโอ คิว จุฬา-สามย่าน” ถนนพระราม 4 ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดินเอ็มอาร์ทีสถานีสามย่าน
“การร่วมมือในครั้งนี้ บริษัทได้เล็งเห้นถึงความสำคัญของการเติบโตของอุตสาหกรรมด้านการออกแบบการสื่อสารของไทยที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยผลงานของนักออกแบบในสาขานี้สามารถสร้างชื่อเสียง และเป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลายในต่างประเทศเป็นจำนวนมาก โดยบริษัทมีแนวคิดในการผลักดัน และกระตุ้นให้กลุ่มนักออกแบบไทยได้เกิดแรงบันดาลใจ และความคิดในการสร้างสรรค์งานใหม่ๆ รวมไปถึงการสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่นำ “ทุน” มาบวกกับ “ความคิดสร้างสรรค์” เพื่อพัฒนา และสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้า และบริการอีกด้วย”
สำหรับ TCDC COMMONS แห่งแรกนี้ ตั้งเป้าให้เป็นพื้นที่เพื่อแลกเปลี่ยนความคิด ไอเดียต่างๆ และเพื่อทำงานร่วมกัน ทั้งนี้ ยังเป็นแหล่งชุมชนของกลุ่มผู้ประกอบการออกแบบการสื่อสาร ครอบคลุม 21 สาขา โดยเฉพาะด้านการออกแบบการสื่อสาร เช่น สาขาโฆษณา สาขาอนิเมชั่น สาขาเวปดีไซน์ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังเป็นแหล่งรวมของผู้ที่สนใจให้สามารถทำงาน และแลกเปลี่ยนความคิด ซึ่งจะนำไปสู่ความคิดสร้างสรรค์ และโอกาสใหม่ทางธุรกิจได้อีกด้วย
ด้านพลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ”โครงการจัดตั้งแหล่งการเรียนรู้ร่วมกับหน่วยงานเอกชน (TCDC COMMONS) หรือศูนย์การสร้างสรรค์งานออกแบบ จัดตั้งเป็นห้องสมุดเฉพาะด้านการออกแบบการสื่อสาร ซึ่งเป็นความร่วมมือกันระหว่าง บริษีท อนันดาฯ และ TCDC ซึ่งปัจจุบัน ภาครัฐได้มุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนประเทศ ภายใต้โมเดล “ไทยแลนด์ 4.0” ซึ่งจะเป็นการพัฒนากลไกให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งจะเปลี่ยนเป็นความได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบของประเทศไทยทั้ง 2 ด้าน ได้แก่ ความหลากหลายทางชีวภาพ และความหลากหลายเชิงนวัตกรรม
โดยจะเกิดความได้เปรียบในการแข่งขันใน 5 กลุ่มอุตสาหกรรม ได้แก่ กลุ่มอาหาร เกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ กลุ่มสาธารณสุข สุขภาพ และเทคโนโลยีทางการแพทย์ กลุ่มเครื่องมืออุปกรณ์อัจฉริยะ หุ่นยนต์ และระบบอิเล็กทรอนิกส์ควบคุม กลุ่มดิจิตอลเทคโนโยลีอินเทอร์เน็ตที่เชื่อมโยง และบังคับอุปกรณ์ต่างๆ ปัญญาประดิษฐ์ และเทคโนโลยีสมองกลฝังตัว และกลุ่มอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ วัฒนธรรม และบริหารที่มีมูลค่าเพิ่มสูง เพื่อให้ประเทศไทยหลุดพ้นกับดักรายได้ปานกลาง เพื่อนำประเทศไปสู่ความมั่งคั่ง และยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม