KTBST มองหุ้นไทยฟื้นตัว แต่อาจขึ้นได้ไม่แรง เพราะเป็นวันศุกร์ ส่วนประเด็นต่างประเทศที่น่าจับตา คือ นายกฯ ญี่ปุ่น จะแถลงภาวะ ศก. ขณะที่นักลงทุนเก็ง BOJ อาจปรับนโยบายการเงิน โดยเพิ่ม QE พร้อมกับลด ดบ.ในการประชุมสัปดาห์หน้า ซึ่งหากเป็นไปตามคาดก็จะส่งผลบวกต่อตลาดหุ้นไทย พร้อมให้กรอบ 1,450-1,477 จุด
นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) หรือ KTBST ประเมินตลาดหุ้นไทยในวันนี้ (16 ก.ย.) มองกรอบดัชนีที่ 1,450-1,477 จุด จากคืนที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐฯ (Dow Jones) บวกได้ 177 จุด ปัจจัยหลักมากจากเรื่องที่เกี่ยวกับดอกเบี้ย เพราะตัวเลขเศรษฐกิจ 4 ตัวมีน้ำหนักในทางลบต่อเศรษฐกิจ โดยตัวเลขเคลมว่างงานครั้งแรกของสหรัฐฯ ถึงจะออกมาดี (+1000 ; คาด +6000) แต่ตัวเลขในภาคเศรษฐกิจจริง คือ ยอดค้าปลีก, ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม และ Empire Manufacturing ล้วนออกมาต่ำกว่าคาด โดยรวมแล้วไปลดโอกาสในการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ในสัปดาห์หน้าให้น้อยลง (Fed Fund Rate Implied Probability เดือน ก.ย. ลดลงจาก 20% เหลือ 18%)
ด้านราคาน้ำมันได้แรงหนุน คือ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง 2 วันติดกัน มาลดแรงกดดันจากสต๊อกน้ำมันสำเร็จรูปที่สูงขึ้นของสหรัฐฯ และคืนที่ผ่านมา มีข่าวว่า มีกำหนดวันประชุม OPEC กับนอกกลุ่มไว้ที่ 27 ก.ย. ราคาน้ำมันดิบถึงจะผันผวนแต่อยู่ในกรอบ 40-50 เหรียญสหรัฐ ซึ่งเรามองเป็นบวกต่อตลาดมากกว่าลบ
สำหรับผลการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) คณะกรรมการยังไม่ปรับเปลี่ยนนโยบาย โดยคงดอกเบี้ยไว้ที่ 0.25% และซื้อพันธบัตรัฐบาล 4.35 แสนล้านปอนด์ แต่พร้อมที่จะปรับผลต่อตลาดในวันนี้จึงมีน้อย แต่ประเด็นในต่างประเทศที่น่าจับตาดูวันนี้ คือ นายกฯ ญี่ปุ่น จะแถลงภาวะเศรษฐกิจ ขณะที่นักลงทุนกำลังเก็งว่า BOJ หรือธนาคารกลางญี่ปุ่น อาจปรับนโยบายการเงิน (เพิ่ม QE+ลดดอกเบี้ย) ในการประชุมสัปดาห์หน้า หากปรับเพิ่มการกระตุ้นเศรษฐกิจ คาดจะบวกต่อตลาดหุ้นไทย
ปัจจัยในประเทศที่สำคัญๆ จะเป็นเรื่องการเดินหน้าแผนลงทุนทั้งโครงการขนาดใหญ่ (PPP) และโครงการด้านพลังงานของภาครัฐ เป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นในช่วงนี้ ดังนั้น ทิศทางตลาดหุ้นไทยวันนี้ แม้ปัจจัยต่างประเทศจะเข้ามาช่วยหนุน นักลงทุนต่างประเทศขายในตลาดเอเซียน้อยลง และของไทยยังซื้อต่อเนื่อง แต่คาดว่าดัชนีฯ จะบวกได้ไม่แรงนัก เนื่องจากเป็นวันศุกร์ที่ตามปกติการซื้อขายไม่ค่อยมากอยู่แล้ว
“ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุน KTBST ยังมองว่า แรงซื้อหุ้นที่กลับเข้ามาในตลาด หลังปรับตัวลงมามาก ยังคงมีต่อ แต่จะเบาบางลงก่อนเข้าวันหยุด จึงยังต้องเน้นกรอบเวลาการลงทุนสั้นๆ เลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว และราคาปรับตัวลงมามากๆ หุ้นที่น่าสนใจ ได้แก่ KBANK TCAP BANPU CHO TSE เป็นต้น”