ลีซ อิท เผยแนวโน้มไตรมาส 3 โตแรง เหตุเข้าสู่ช่วงไฮซีซัน ล่าสุด คว้าสัญญาปล่อยกู้ Project Finance สนับสนุนโครงการรถขุดไฮดรอลิกตีนตะขาบ มูลค่าสัญญากว่า 55 ล้านบาท ของกรมทางหลวง “สิตาพัชร์ นิโรจน์ธนรัฐ” มั่นใจช่วยเพิ่มพอร์ตสินเชื่อของบริษัทฯ เติบโตอย่างแข็งแกร่ง หนุนรายได้-กำไรโตเกิน 30% ตามแผน
นางสาวสิตาพัชร์ นิโรจน์ธนรัฐ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีซ อิท จำกัด (มหาชน) หรือ LIT เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ให้บริการสินเชื่อเพื่อสนับสนุนโครงการ (Project Backup Finance) เพื่อสนับสนุนสัญญาซื้อขายรถขุดไฮดรอลิกตีนตะขาบ ขนาดไม่น้อยกว่า 120 แรงม้า จำนวน 14 คัน สัญญากรมทางหลวง มูลค่าสัญญากว่า 55 ล้านบาท โดยบริษัทฯ ได้ให้สินเชื่อ Project Backup Finance หรือสินเชื่อเพื่อสนับสนุนโครงการดังกล่าวเป็นวงเงิน 45 ล้านบาท ระยะเวลา 60 วัน และให้สินเชื่อรับซื้อหนี้การค้า หรือ Factoring เพื่อรองรับหลังการดำเนินโครงการดังกล่าวเสร็จสิ้นด้วย
ที่ผ่านมา LIT ได้ให้สินเชื่อให้กับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยให้สินเชื่อครบวงจรหลากหลายประเภทเพื่อตอบโจทย์ลูกค้า SMEs ที่เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานภาครัฐ หรือบริษัทเอกชนขนาดใหญ่มาแล้วหลากหลายโครงการ อาทิ โครงการสินเชื่อเช่าเหมาเครื่องคอมพิวเตอร์ พร้อมอุปกรณ์ต่อพ่วงในมหาวิทยาลัย โครงการสินเชื่อเพื่อเปิด L/C เพื่อซื้อขายมิเตอร์ไฟฟ้า (Watt hour Meters) จำนวนกว่า 200,000 เครื่อง ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โครงการสินเชื่อเช่าซื้อชุดเครื่องยนต์ดีเซลกำเนิดไฟฟ้า เพื่อแก้ไขปัญหาการจ่ายไฟฟ้าในพื้นที่เกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี โครงการสินเชื่อเพื่อสนับสนุนโครงการ (Project Backup Finance) เพื่อจัดหา และติดตั้งเครื่องกั้นถนนของการรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นต้น
“การให้สินเชื่อสนับสนุนโครงการ (Project Backup Finance) ดังกล่าวเป็นสินเชื่อระยะสั้นที่จะเกิดขึ้นภายในไตรมาส 3 ซึ่งเป็นไตรมาสที่เป็น High season ของบริษัทฯ และต่อเนื่องไปถึงไตรมาส 4 ด้วย ซึ่งโดยปกติแล้ว LIT จะให้สินเชื่อครบวงจรสำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ตั้งแต่เริ่มต้นโครงการจนจบโครงการ หรือตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ สำหรับโครงการนี้ก็เช่นกัน บริษัทฯ เข้าไปให้สินเชื่อสนับสนุนโครงการ (Project Backup Finance) ตั้งแต่เริ่มต้น และเมื่อโครงการเสร็จก็จะบริการสินเชื่อแฟกตอริ่ง (Factoring) หรือรับซื้อหนี้การค้าต่อเนื่องไปด้วย” นางสาวสิตาพัชร์ กล่าว
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวจะช่วยเพิ่มพอร์ตสินเชื่อเพื่อสนับสนุนโครงการให้เติบโตขึ้น ซึ่งจะช่วยผลักดันให้บริษัทฯ สามารถมีรายได้รวมในปีนี้เป็นไปตามเป้าหมาย คือ เติบโตไม่ต่ำกว่า 30% ทั้งในส่วนของรายไก้ กำไร และพอร์ตสินเชื่อได้ง่ายขึ้นด้วย