กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง ประกาศภาพรวมธุรกิจของบริษัทต่อจากนี้ยังสดใสตามดีมานด์ทั้งใน และต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น พร้อมมุ่งสู่เป้าหมายผู้นำธุรกิจพลังงานทดแทน มั่นใจปี 2560 ดันกำลังการผลิตได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ 500 เมกะวัตต์ หลังตุนไว้ในมือแล้ว 403 เมกะวัตต์ “สมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย” ระบุครึ่งปีที่ผ่านมา โชว์ฟอร์มถูกใจผู้ถือหุ้น ปั๊มกำไรสุทธิ 315.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42.62% อานิสงส์รายได้จากการขายและรายได้จากการให้บริการโตไม่ยั้ง
ดร.สมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL เปิดเผยถึงภาพรวมธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ ต่อจากนี้เชื่อว่า ยังคงขยายตัว และเติบโตได้อย่างมีศักยภาพมากยิ่งขึ้นต่อเนื่อง จากครึ่งปีแรกที่บริษัท และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ จำนวน 315.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 221.53 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้น 42.62% เนื่องจากความต้องการในอุตสาหกรรมระบบไฟฟ้าทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ยังขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
โดยบริษัทฯ ยังคงเข้าร่วมประมูลงานโครงการต่างๆ ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ตลอดจนงานจากภาคเอกชน เพื่อเพิ่มศักยภาพของธุรกิจในภาคส่วนต่างๆ เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มงานในมือ (Backlog) ให้สูงขึ้น ผลการดำเนินงานเติบโตมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ ที่สำคัญ เพื่อผลักดันให้กำลังการผลิตภายในปี 2017 เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 500 เมกะวัตต์ โดยขณะนี้มีกำลังการผลิตรวมทั้งสิ้นแล้วประมาณ 111 เมกะวัตต์ และภายในเดือนตุลาคมนี้ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 161 เมกะวัตต์
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด บริษัทได้เข้าไปลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เคนโตส (Kentos) เมืองอุทสึโนะมิยะ จังหวัดโทชิงิ ประเทศญี่ปุ่น ขนาดกำลังการผลิตของโครงการตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 66.78 เมกะวัตต์ และตามการติดตั้ง 72.80 เมกะวัตต์ คิดเป็นมูลค่ารวมของโครงการประมาณ 8,391 ล้านบาท นับเป็นโครงการที่ 3 ของบริษัทฯ ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้บริษัทฯ มีอัตราการเติบโตทั้งทรัพย์สิน ผลกำไร และกระแสเงินสดอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 20 ปี โดยคาดว่าจะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนในอัตรา 10-15% ตลอดอายุการลงทุน
ส่วนโครงการโซลาร์ฟาร์มที่ประเทศญี่ปุ่นอีก 2 โครงการอยู่ระหว่างปิดโปรเจกต์ไฟแนนซ์ โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาสนี้ 1 โครงการ และไตรมาส 4/2559 ส่งผลทำให้ GUNKUL มีโครงการพลังงานแสงอาทิตย์อยู่ในระหว่างก่อสร้าง ณ ปัจจุบัน 150 เมกะวัตต์ มูลค่าโครงการประมาณ 15,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีโครงการลมอีก 2 โครงการภายในประเทศ กำลังการผลิต 60 เมกะวัตต์ และ 50 เมกะวัตต์ มูลค่าโครงการประมาณ 12,000 ล้านบาท
“การลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนต่างประเทศ จะช่วยส่งเสริมนโยบายของบริษัทฯ ในการก้าวขึ้นสู่ความเป็นผู้นำในธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนในระดับนานาชาติ และมีส่วนร่วมสำคัญในการผลักดันให้เกิดโรงไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด รวมถึงเปิดโอกาสสำคัญให้บริษัทฯ สามารถขยายฐานธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนไปยังต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นการเพิ่มศักยภาพด้านการเติบโตอย่างยั่งยืน ที่สำคัญ ผลักดันให้กำลังการผลิตของบริษัทเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 500 เมกะวัตต์ ในปี 2560” ดร.สมบูรณ์ กล่าว