xs
xsm
sm
md
lg

กรุ๊ปลีส ร่วมทุนพันธมิตร ศรีลังกา รุกสินเชื่อไมโครไฟแนนซ์ในพม่า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กรุ๊ปลีส ประกาศควบรวมกิจการไมโครไฟแนนซ์ในพม่า ร่วมทุนกับยักษ์ใหญ่สินเชื่อขนาดย่อมในศรีลังกา โดยผนึกกำลังกับเจ้าของเดิมรุกขยายธุรกิจสินเชื่อขนาดย่อมเต็มสูบ ขยายสู่ตลาดอื่นในภูมิภาคอาเซียน ย้ำตลาดอินโดนีเซีย ซึ่งมีศักยภาพการขยายตัวสูงมาก

นายมิทซึจิ โคโนชิตะ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.กรุ๊ปลีส หรือ GL แถลงว่า GL Holdings (GLH) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ GL ที่จดทะเบียนในประเทศสิงคโปร์ ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลง (MOU) เพื่อซื้อหุ้น 71.9% ของบริษัท BG Microfinance Myanmar Co., Ltd (BGMM) ซึ่งมีใบอนุญาตถาวรในการดำเนินธุรกิจไมโครไฟแนนซ์ในประเทศพม่า และได้ประกอบกิจการมาแล้ว 2 ปี โดยซื้อหุ้นดังกล่าวจากบริษัท BG International Private Ltd., ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัทไฟแนนซ์ชั้นนำยักษ์ใหญ่ธุรกิจไมโครแนนซ์ในประเทศศรีลังกา ชื่อ บริษัท Commercial Credit โดยบริษัท Commercial Credit นี้เป็นบริษัทมหาชนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ศรีลังกา ซึ่งประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจ และมีชื่อเสียงที่ดีมาก โดยบริษัทฯ ดังกล่าวยังคงเป็นผู้ถือหุ้นที่เหลืออีก 28.1% ใน BGMM ที่พม่า ต่อไป และได้กลายเป็นหุ้นส่วนพันธมิตรกับ GL

“ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้พันธมิตรใหม่ ซึ่งเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียง และมีมาตรฐานการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะธุรกิจไมโครไฟแนนซ์ ซึ่งเราสามารถผสมผสานกับแพลตฟอร์มดิจิตอลไฟแนนซ์ของ GL ในการรุกขยายธุรกิจไมโครไฟแนนซ์ในพม่า และประเทศอื่นที่เราได้ขยายเข้าไปดำเนินธุรกิจแล้ว โดยเฉพาะประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งมีศักยภาพการขยายตลาดได้อย่างมาก และการผนึกกำลังความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ของ GL ซึ่งมีจุดเด่นทางด้านแพลตฟอร์มดิจิตอลไฟแนนซ์ ผนวกกับโมเดลการปล่อยสินเชื่อไมโครไฟแนนซ์เป็นรายกลุ่ม (Group Finance) ของกลุ่มบริษัท Commercial Credit จะสามารถสร้าง Synergy ที่ช่วยผลักดันการขยายธุรกิจของ GL ได้อย่างรวดเร็วในอนาคต”

การควบรวมกิจการครั้งนี้ คาดว่าจะมีผลในอนาคตอันใกล้นี้ หลังจากที่ฝ่าย GL ได้ดำเนินการตรวจสอบสถานะกิจการของ BGMM (Due Diligence) โดยนายมิทซึจิ คาดว่า จะสามารถเริ่มบันทึกการรับรู้กำไรจากธุรกิจใหม่ในพม่า ตั้งแต่ไตรมาส 4 ของปีนี้

โดยการเทกโอเวอร์รายล่าสุดในเมียนมา ครั้งนี้ จะมีนัยสำคัญต่อผลกำไรของกลุ่ม GL ในอนาคตระยะยาว แม้ว่าขณะนี้บริษัท BGMM ยังมีขนาดเล็กอยู่ แต่ก็มีกำไรที่ดีโดยสามารถทำกำไรได้เดือนละ 20,000 เหรียญสหรัฐ และมีจำนวนลูกค้าทั้งหมด 9,800 คน โดยมียอดสินเชื่อรวมทั้งสิ้นประมาณ 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ในรูปของเงินกู้ที่ปล่อยกู้เป็นกลุ่ม มีลูกหนี้กลุ่มละ 5 คน ซึ่งแต่ละคนจะกู้เป็นเงิน 200 เหรียญสหรัฐ เพื่อซื้อรถจักรยานยนต์มือสอง หรือเครื่องใช้ส่วนตัวอย่างอื่น โดยที่ลูกหนี้ในแต่ละกลุ่มจะรับผิดชอบซึ่งกันและกัน ส่วนเงินกู้มีระยะเวลาทั้งสิ้น 50 สัปดาห์ กำหนดชำระคืนทุกสัปดาห์ โดยลูกหนี้ส่วนใหญ่เป็นสตรีแม่บ้านที่เป็นจุดศูนย์รวมของครอบครัวในพื้นที่ชนบททั่วไป ซึ่งเป็นจุดแข็งของระบบการบริหารจัดการไมโครไฟแนนซ์ของกลุ่มพันธมิตรใหม่ของ GL

อย่างไรก็ดี บริษัท BGMM สามารถที่จะขยายยอดสินเชื่อได้อย่างมาก แต่ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ เนื่องจากมีข้อจำกัดในการส่งเงินออกจากประเทศศรีลังกา แต่ปัญหาดังกล่าวจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง หลังจากการเทกโอเวอร์โดย GL พร้อมอัดฉีดเม็ดเงินใหม่ จำนวน 6.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ในทันที เพื่อขยายสาขาจากปัจจุบัน ซึ่งมีอยู่ 3 สาขา (2 สาขาในนครย่างกุ้ง และอีก 1 สาขาในเมือง BAGO) ให้ครอบคลุมอีก 12 จังหวัดในภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศเมียนมา โดยนายมิทซึจิ คาดว่า ยอดปล่อยสินเชื่อทั้งสิ้นจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็น 30-40 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปีหน้า และกำไรต่อเดือน คาดว่าจะพุ่งขึ้นถึง 10 เท่า หรือเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 200,000 เหรียญสหรัฐต่อเดือน

ทั้งนี้ พม่า นับเป็นประเทศที่ 5 ในเครือข่ายธุรกิจในภูมิภาคอาเซียนของ GL โดย GL ได้เริ่มขยายจากธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ในประเทศไทย สู่ประเทศข้างเคียง คือ กัมพูชา สปป.ลาว และอินโดนีเซีย โดยได้พัฒนาแพลตฟอร์มดิจิตอลไฟแนนซ์ที่มีประสิทธิภาพสูงแต่ต้นทุนต่ำ และขณะเดียวกัน ก็ขยายธุรกิจเช่าซื้อไปครอบคลุมสินค้า และบริการอื่นๆ อาทิ เครื่องจักรกลการเกษตร KUBOTA แผงโซลาร์เซลล์ PANASONIC และประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ โดยบริษัทฯ ได้รายงานกำไรสุทธิในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ที่ 255.85 ล้านบาท ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในประวัติการณ์ และกำไรสุทธิในครึ่งปีแรกอยู่ที่ 487 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น