ธ.กสิกรฯ คาดสินเชื่อเอสเอ็มอีปีนี้ ขยายตัวได้ 7-9% ยอมรับเลี่ยงปล่อยสินเชื่อ 3 กลุ่มอุตฯ เหล็ก จิวเวอร์รี่ และพืชไร่ พร้อมมองภาพช่วงครึ่งปีหลัง ศก.เริ่มมีสัญญาณฟื้นตัว กลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่จะระดมทุนโดยการออกหุ้นกู้ IPO และการออกทรัสต์ เพื่อการลงทุนในอสังหาฯ เพิ่มขึ้น
นายพัชร สมะลาภา รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ยอดสินเชื่อสายงานธุรกิจเป็นไปตามเป้า โดยสินเชื่อลูกค้าเอสเอ็มอีมียอดสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 628,693 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 2 และคาดว่าทั้งปีจะโตร้อยละ 7-9 เนื่องจากลูกค้าเอสเอ็มอีมีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนมากขึ้น จากมาตรการช่วยเหลือของภาครัฐที่ทยอยออกมาต่อเนื่อง เช่น มาตรฐานบัญชีเดียว และ พ.ร.บ.หลักประกันธุรกิจ
ส่วนสินเชื่อลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ในช่วงครึ่งปีแรกเติบโตมากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยมียอดสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 512,137 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 9 เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่า ทั้งปีจะโตร้อยละ 4-6 โดยอุตสาหกรรมที่โดดเด่นในครึ่งปีแรก คือ รับเหมาก่อสร้าง ยานยนต์ และฮาร์ดแวร์ ส่วนอุตสาหกรรมที่มีความเสี่ยง และธนาคารระวังปล่อยสินเชื่อเป็นพิเศษ คือ เหล็ก จิวเวอร์รี่ และพืชไร่
สำหรับมาตรการช่วยเหลือลูกค้าธุรกิจผลกระทบจากเศรษฐกิจชะลอตัว ธนาคารได้มีการช่วยเหลือตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบัน โดยมียอดสินเชื่อที่เข้ามาตรการช่วยเหลือ จำนวน 149,000 ล้านบาท และมียอดสินเชื่อคงค้างของลูกค้าที่เข้ามา มาตรการ อยู่ที่ 24,000 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2559 ซึ่งมีจำนวนลดลง เนื่องจากลูกค้าธุรกิจมีการปรับตัวตั้งรับกับเศรษฐกิจชะลอตัวได้ดีขึ้น ส่งผลให้คุณภาพหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ เอ็นพีแอล ไม่น่ากังวล โดยเอ็นพีแอลสินเชื่อเอสเอ็มอีอยู่ที่ร้อยละ 4 ส่วนเอ็นพีแอลสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่อยู่ที่ร้อยละ 2
อย่างไรก็ตาม ธนาคารยังดูแลลูกค้าตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ โดยเฉพาะใน 3 กลุ่มธุรกิจหลัก คือ การบริโภค อุตสาหกรรมหนักโครงสร้างพื้นฐาน/พลังงานให้ได้รับเงินทุน ถ้าเงินกู้ระยะยาว และเงินทุนหมุนเวียน
ส่วนในช่วงครึ่งปีหลังเศรษฐกิจเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัว ซึ่งคาดว่าทั้งกลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่ จะระดมทุนโดยการออกหุ้นกู้ IPO และการออกทรัสต์ เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (รีท) เพิ่มขึ้น คาดว่าธนาคารกสิกรไทยจะมีดีลให้ลูกค้าตลาดทุน อีก 8,000 ล้านบาท จากครึ่งปีแรกมีมูลค่า 8,085 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 40 ของตลาดที่มีมูลค่า 20,125 ล้านบาท