บิสซิเนสอะไลเม้นท์ มั่นในรายได้ในปี 2559 เติบโตไม่ต่ำกว่า 50-60% จากปีก่อนมีรายได้รวม 311 ล้านบาท รุกขยายฐานลูกค้าในกลุ่มโรงพยาบาลรัฐ และโรงพยาบาลเอกชนเพิ่มขึ้น โชว์ Backlog กว่า 566 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ปีนี้ราว 60% ส่วนที่เหลือยกยอดไปปีหน้า แย้มอยู่ระหว่างประมูลงานใหม่อีกมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท คาดได้ข้อสรุปในไตรมาส 3 ถึงไตรมาส 4 นี้
นายสมพงษ์ ชื่นกิติญานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิสซิเนสอะไลเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ BIZ ซึ่งเป็นผู้นำในการเป็นตัวแทนนำเข้า จำหน่าย ติดตั้ง และการให้บริการดูแล และซ่อมบำรุงเครื่องมือแพทย์ โดยเน้นในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการรักษาโรคมะเร็งด้วยวิธีรังสีรักษาเป็นหลัก เปิดเผยว่า บริษัทฯ มั่นใจว่า รายได้ในปี 2559 จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 50-60% ตามเป้าหมายที่วางไว้ จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 311 ล้านบาท
โดยบริษัทฯ เดินหน้าขยายฐานลูกค้ากลุ่มโรงพยาบาลภาครัฐ และเอกชนเพิ่มขึ้น เพื่อสร้างการเติบโตในอนาคตอย่างยั่งยืน ซึ่งมองว่าตลาดเครื่องฉายรังสียังมีความต้องการอีกมาก ตามจำนวนผู้ป่วยโรคมะเร็งที่เพิ่มมากขึ้นในทุกๆ ปี
ปัจจุบัน บริษัทฯ มีมูลค่างานในมือ (Backlog) ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2559 อยู่ที่ 566.45 ล้านบาท แบ่งเป็น
1.โครงการเครื่องฉายรังสีอัตราปริมาณรังสีสูงแบบพิเศษ โรงพยาบาลมะเร็งลพบุรี มูลค่า 154.00 ล้านบาท
2.โครงการเครื่องเร่งอนุภาค โรงพยาบาลมะเร็งชลบุรี มูลค่า 116.50 ล้านบาท
3.โครงการเครื่องฉายรังสี เครื่องจำลองการฉายรังสี และเครื่องวางแผนการรักษา โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ มูลค่า 77.50 ล้านบาท
และ 4.โครงการเครื่องเร่งอนุภาค คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลมหาวิทยาลัยมหิดล มูลค่า 218.45 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าโครงการดังกล่าวจะสามารถรับรู้รายได้ปีนี้ราว 60% ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้ในปีหน้า
นายวรวิทย์ สีลภูสิทธิ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินและทรัพยากรมนุษย์ บริษัท บิสซิเนสอะไลเม้นท์ จำกัด (มหาชน) (BIZ) กล่าวว่า บริษัทฯ อยู่ระหว่างประมูลงานใหม่อีกมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการทั้งในโรงพยาบาลรัฐ และโรงพยาบาลเอกชน คาดว่าจะทราบผลประมูลในช่วงไตรมาส 3 หรือ ไตรมาส 4 นี้ โดยหากบริษัทฯ ได้รับงานเพิ่มขึ้นก็จะทำให้มูลค่างานในมือของบริษัทฯ เพิ่มขึ้น จะช่วยผลักดันผลประกอบการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2559 มีรายได้รวมอยู่ที่ 106.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 502.51% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 17.69 ล้านบาท ขณะที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 8.10 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 0.79 ล้านบาท
โดยสาเหตุที่ผลประกอบการเติบโตอย่างโดดเด่น เนื่องจากบริษัทมีการรับรู้รายได้จากการส่งมอบงานโครงการให้แก่ลูกค้าศูนย์วิจัยและรักษามะเร็งกรุงเทพ ซึ่งมีมูลค่าเท่ากับ 50.65 ล้านบาท ประกอบกับมีรายได้จากการขายอุปกรณ์ประกอบทางการแพทย์อื่นๆ ที่เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ยังรับรู้รายได้จากงานให้บริการอัปเกรดระบบซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในการฉายรังสีให้กับโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องวางแผนการรักษา และระบบซอฟต์แวร์ที่มีอยู่ให้ทันสมัยมากขึ้น โดยมีมูลค่าเท่ากับ 18.64 ล้านบาท รวมถึงมีรายได้จากการบริการที่เพิ่มมากขึ้นเกิดจากการที่บริษัทมีจำนวนสัญญาให้บริการบำรุงรักษาเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากช่วงรับประกันสินค้าตามสัญญาซื้อขายหลังจากส่งมอบงานของลูกค้าหลายรายหมดอายุลง จึงเริ่มทำสัญญาบำรุงรักษาดังกล่าวกับบริษัทฯ