xs
xsm
sm
md
lg

“ทรีนีตี้” คาดหุ้นไทยเดือน 9 แกว่งตัวในกรอบ 1,500-1,570 จุด แนะลงทุนกลุ่มอุตสาหกรรมผลกำไรต่อเนื่อง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด
บล.ทรีนีตี้ แนะกลยุทธ์การลงทุนเดือนกันยายน เน้นเลือกซื้อหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีผลกำไรเติบโตต่อเนื่อง สั่งลุยกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มท่องเที่ยว กลุ่มอาหาร กลุ่มเช่าซื้อ และกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ หลังคาดการณ์ตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบแนวรับ 1,500 จุด และแนวต้าน 1,570 จุด มีปัจจัยบวกภายในประเทศ ทั้งการจัดงาน Thailand Focus 2016 และตัวเลขรายได้เกษตรกรเติบโตสูงสุดในรอบเกือบ 5 ปี พร้อมลุ้นแรงหนุนธนาคารกลางญี่ปุ่น คลอดนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ จับตาการประกาศผลตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกากดดันดัชนีหุ้นไทย

นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เปิดเผยว่า คาดการณ์ดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET Index) แกว่งตัว (Sideways) ในเดือนกันยายน โดยมองแนวรับของดัชนีอยู่ที่ 1,500 จุด และแนวต้านอยู่ที่ 1,570 จุด มีปัจจัยเชิงบวกจากผลบวกจากการจัดงาน Thailand Focus 2016 ระหว่างวันที่ 31 สิงหาคมถึงวันที่ 2 กันยายน 2559 โดยอ้างอิงผลการศึกษาในอดีต พบว่าโดยเฉลี่ยแล้ว SET Index จะปรับตัวขึ้น และนักลงทุนต่างชาติจะซื้อสุทธิหุ้นไทยในช่วง 2-4 สัปดาห์หลังจบการจัดงานดังกล่าว ปัจจัยถัดมา คือ รายได้เกษตรที่เติบโตสูงสุดในรอบเกือบ 5 ปี เป็นตัวหนุนให้การบริโภคภายในประเทศยังคงแข็งแกร่ง

อีกทั้งคาดการณ์ผลบวกจากปัจจัยต่างประเทศ กรณีการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันที่ 20-21 กันยายน 2559 ซึ่งมีโอกาสสูงถึง 60-70% ที่จะมีการออกมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติม ภายหลังอัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่นหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 โดยนโยบายที่อาจเลือกใช้ ได้แก่ การลดดอกเบี้ยสู่ระดับติดลบมากขึ้น รวมถึงการเพิ่มวงเงินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)

สำหรับปัจจัยเชิงลบที่จะเข้ามากดดันดัชนีตลาดหุ้นไทย ได้แก่ มูลค่า (Valuation) ของตลาดหุ้นไทยที่อยู่ในระดับสูงตามมิติส่วนต่างอัตราผลตอบแทน (Earning yield gap) โดยจากการคำนวณ ล่าสุด พบว่าที่ระดับอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) สหรัฐอเมริกา อายุ 10 ปี ที่ 1.58% และ EPS คาดการณ์ของ SET Index ปีหน้า ที่ 106.3 บาท จะได้ระดับดัชนีที่เหมาะสมเพียง 1,530 จุด เท่านั้น

นอกจากนั้น ต้องติดตามแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐอเมริกา (Fed Funds) หลังจากตลาดเริ่มให้น้ำหนักมากขึ้นกับการปรับขึ้นในปีนี้ รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐอเมริกา ที่จะรายงานออกมาในเดือนนี้ โดยเริ่มจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Nonfarm payrolls) ในคืนวันที่ 2 กันยายนนี้

“จากการที่ Upside ของดัชนีหุ้นไทยยังคงจำกัด จึงแนะนำเจาะจงการลงทุนไปยังกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังปี 2559 โดยมองกลุ่มหุ้นที่น่าสนใจ ได้แก่ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มเช่าซื้อ กลุ่มท่องเที่ยว กลุ่มอาหาร และกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์”
กำลังโหลดความคิดเห็น