สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ฯ คาดการณ์แนวโน้มผลประกอบการครึ่งปีหลังเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก โดยมีรายได้จากลูกค้าใหม่ยังมีเข้ามาต่อเนื่อง และเน้นลดต้นทุนสร้างกำไร รวมทั้งโครงการลงทุนผลิต Solar Panel ให้กับพันธมิตรจากสหรัฐอเมริกา เฟสแรก ขนาดกำลังการผลิต 40 MW/ปี คาดเริ่มรับรู้รายได้ภายใน Q4/59 ช่วยหนุนรายได้เพิ่ม มั่นใจผลงานปีนี้โตตามเป้าหมาย-ล้างขาดทุนสะสม 60 ลบ. หมด
นายพีระพล วิไลวงศ์เสถียร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SMT กล่าวถึง แนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลัง 2559 คาดว่ายังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยบริษัทพยามเร่งปรับตัวในการลดต้นทุนในการผลิต เพื่อให้ได้อัตรากำไรที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงเลือกที่จะผลิตในสินค้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูง มาผลิตสินค้าประเภท high value added เช่น IC Packaging, Wafer dicing, Captive และ Specialty และ Optical Component (เช่น Transceivers 1-2, Active Optical Micro Assembly) ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบตัวอย่างผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้าย และคาดว่าการขึ้นสายการผลิตใน H2/59 ยังคงเป็นไปตามแผน รวมทั้งบริษัทยังคงตั้งเป้าที่จะขยายฐานลูกค้าให้เพิ่มมากขึ้น จากเดิมที่บริษัทพึ่งพิงลูกค้ารายใหญ่เพียงไม่กี่ราย
“มั่นใจว่าผลประกอบการครึ่งปีหลังของปี 59 จะเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก ทำให้ปีนี้บริษัทจะสามารถล้างขาดทุนสะสม 60 ล้านบาทได้หมดเกลี้ยง และปีนี้จะสามารถพลิกกลับมามีกำไรได้ เนื่องจากบริษัทมีตัว New Product เข้ามาเสริม ทำให้มาร์จิ้นสูง ส่งผลต่อเนื่องมายังกำไรสุทธิ SMT ซึ่งเริ่มเห็นตั้งแต่ไตรมาสแรกว่ากำไรดีขึ้น จากงาน New Product” นายพีระพล กล่าว
นอกจากนี้ จากการที่บริษัทได้ข้อสรุปการลงทุนโครงการลงทุนผลิต Solar Panel ให้กับพันธมิตรจากสหรัฐอเมริกา เฟสแรก ขนาดกำลังการผลิต 40 MW/ปี และคาดว่าสามารถเริ่มรับรู้รายได้ภายในไตรมาส 4/59 โดยรายได้ดังกล่าวจะเข้ามาช่วยสนับสนุนให้ผลประกอบการของบริษัทในครึ่งปีหลังนี้ให้เติบโตตามเป้าหมาย โครงการดังกล่าวใช้เงินลงทุนราว 100 ล้านบาท และบริษัทมีแผนในการเพิ่มกำลังการผลิตได้อีก 5 เท่า เป็น 200 MW จากแผนการลงทุนที่วางแผนไว้กับพันธมิตร
สำหรับผลประกอบการของบริษัทฯ ในไตรมาส 2/59 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2559 ว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ พลิกกลับมามีกำไรสุทธิ 32.40 ล้านบาท หรือพลิกมีกำไรเพิ่มขึ้น 3,211% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีผลขาดทุนสุทธิ 14.46 ล้านบาท และในงวด 6 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทฯ สามารถ พลิกกลับมามีกำไรสุทธิ 70.42 ล้านบาท หรือพลิกมีกำไรเพิ่มขึ้น 7,002.68% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีผลขาดทุนสุทธิ 19.66 ล้านบาท ถือว่าผลการดำเนินงานของบริษัทฯ สามารถพลิกกลับมามีกำไรได้ หลังจากก่อนหน้านี้ประสบปัญหาขาดทุน ตั้งแต่เหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ในปี 2554