บมจ.ซินเน็ค คาดผลประกอบการไตรมาส 3 ปีนี้โตสุด เนื่องจากเป็นช่วง High Season ของธุรกิจ พร้อมเดินหน้าขยายฐานลูกค้าใหม่ผลักดันสินค้ามาร์จิ้นสูง โดยเฉพาะสินค้ากลุ่ม Commercial เนื่องจากให้ความสำคัญในการบริหารต้นทุนค่าใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพ ยืนยันเป้าหมายรายได้รวมทั้งปี 58 เติบโตอีกไม่ต่ำกว่า 10% ส่วนธุรกิจในอินโดไชน่าคาดจะเริ่มเติบโตอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ปีหน้า
น.ส.สุธิดา มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซินเน็ค (ประเทศไทย) หรือ SYNEX กล่าวว่า แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3/2558 มีทิศทางเติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2558 ที่ผ่านมา และช่วงเดียวกันของปีก่อน อีกทั้งคาดว่าจะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซันของธุรกิจ บริษัทฯ เดินหน้าตามกลยุทธ์ที่วางไว้ตั้งแต่ต้นปี สนับสนุนรายได้ และกำไรให้เติบโตขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งเดินหน้าขยายฐานลูกค้าใหม่ควบคู่กับการรักษาฐานลูกค้าเดิม ผลักดันสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูงออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสินค้ากลุ่ม Commercial ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นอยู่ที่ประมาณ 25% จากปีก่อนอยู่ที่ 15% ของยอดขายทั้งหมด สินค้ากลุ่ม Consumer ยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีตามภาพรวมอุตสาหกรรมไอทีที่คึกคักมากขึ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็น ส่วนสนับสนุนผลประกอบการให้เติบโตแข็งแกร่ง และมั่นใจเป้าหมายรายได้ทั้งปีจะเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 10% หรืออยู่ที่ 2.1 หมื่นล้านบาท จากปี 2557 ที่มีรายได้รวม 1.9 หมื่นล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญในเรื่องบริการหลังการขายให้เป็นเลิศ เพื่อก่อให้เกิดความพึงพอใจ และความมั่นใจแก่พาร์ตเนอร์ และลูกค้าอย่างสูงสุด ส่วนธุรกิจในต่างประเทศ Indochina เริ่มเติบโตอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป เร่งเพิ่มยอดขายให้อยู่ที่กว่า 1,000 ล้านบาท ในปี 2559
“ภาพรวมธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะมีการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะใน Q3/58 ที่คาดว่าจะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซันของธุรกิจ สำหรับแผนธุรกิจที่บริษัทฯ วางไว้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จไปได้ด้วยดี ผลงานครึ่งปีแรกที่ออกมามีการเติบโตอย่างน่าพอใจ และมั่นใจเป้าหมายรายได้ทั้งปีจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% เป็นไปตามที่วางไว้ได้แน่นอน”
สำหรับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2558 บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย และบริการ 10,197.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 1,145.38 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 12.65% และมีกำไรสุทธิ 161.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 101.97 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 170.96% เมื่อเปรียบเทียบกับกำไรสุทธิในงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งอยู่ที่ 59.65 ล้านบาท สาเหตุที่กำไรของบริษัทฯ ปรับเพิ่มขึ้นเนื่องจากบริษัทฯ เดินหน้าตามแผนธุรกิจ มุ่งเน้นสินค้าที่ให้ผลตอบแทนกำไรสูง และคัดเลือกสินค้าที่ตอบสนองความต้องการของตลาด ควบคู่กับการบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพ จึงทำให้ยอดขาย และกำไรของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
.
