เอทีพี 30 เร่งเครื่องเพิ่มประสิทธิภาพระบบบริหารจัดการ ดันอัตราส่วนกำไรขั้นต้นแตะ 25% ลุ้นปิดดีลลูกค้ารายใหญ่ไตรมาส 3 นี้ ด้านรถตู้ VIP กระแสความต้องการใช้งานมากขึ้น ธุรกิจใหม่ shuttle bus ยอดผู้ใช้บริการพุ่ง เตรียมขยายบริการเพิ่ม มั่นใจปีนี้รายได้เข้าเป้า 300 ล้านบาท
นายปิยะ เตชากูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอทีพี 30 จำกัด (มหาชน) (ATP30) ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการรถรับส่งพนักงานจากแหล่งที่พักอาศัยในเขตชุมชนไปยังโรงงานอุตสาหกรรม หรือสถานประกอบการโดยเฉพาะรอบเขตนิคมอุตสาหกรรมในภาคตะวันออก (Eastern Seaboard) เปิดเผยถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังว่า บริษัทยังคงมุ่งเน้นเรื่องการบริหารจัดการ เพื่อรักษาอัตราการทำกำไร โดยการพัฒนาระบบการบริหารงาน ทำให้สามารถควบคุมต้นทุนค่าบริการที่สำคัญได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้กำไรขั้นต้นในช่วงครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 34.56 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น หรือกรอสมาร์จิ้น 23.96% ซึ่งบริษัทตั้งเป้าอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ที่ 25%
ทั้งนี้ การให้บริการรถรับส่งพนักงานรอบเขตนิคมอุตสาหกรรม อยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้ารายใหญ่ มูลค่างานประมาณ 600 ล้านบาท คาดว่าจะได้ข้อสรุปในช่วงไตรมาส 3 ขณะที่ลูกค้าที่ลงนามสัญญาในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา เริ่มทยอยรับรู้รายได้เต็มไตรมาสแล้ว
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนที่จะขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมรอบเขตนิคมอุตสาหกรรมภาคตะวันออกมากขึ้นเช่น จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งบริษัทมีการเจราจากับลูกค้าแล้วหลายราย คาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้
ส่วนธุรกิจรถเช่ารายวัน VIP Van Service และธุรกิจโมเดลใหม่ รถ shuttle bus ให้บริการรับส่งมวลชน มีกระแสการตอบรับที่ดี โดยธุรกิจรถให้เช่ารายวันมีจำนวนลูกค้าขอใช้บริการมากขึ้น ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาเพิ่มจำนวนรถ ส่วนธุรกิจรถ shuttle bus เริ่มมียอดผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน บริษัทจึงมีแผนที่จะขยายพื้นที่ไปยังกลุ่มคอนโดมิเนียม และคอมมูนิตีมอล ที่ห่างจากรถไฟฟ้าในบริเวณอื่นเพิ่มเติม
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 2/59 บริษัทมีรายได้จากการให้บริการ 74.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.16 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 14.04% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการให้บริการ 65.22 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 7.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.85 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 206.38% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2.35 ล้านบาท
“บริษัทเชื่อมั่นว่า ด้วยการบริหารจัดการที่ดี ประกอบกับการได้รับความเชื่อมั่น และความไว้วางใจจากทั้งลูกค้าเก่า และลูกค้าใหม่ ที่เข้ามาใช้บริการเพิ่มมากขึ้น จะส่งผลให้รายได้ของบริษัทเติบโตใกล้เคียงกับเป้าหมายที่วางไว้ที่ประมาณ 300 ล้านบาท หรือเติบโตไม่น้อยกว่า 15% จากปี 58” นายปิยะ กล่าว