เอทีพี 30 ตั้งเป้าโกยรายได้ปีนี้ทะลุ 300 ล้านบาท จีบติดลูกค้าใหม่ 3 ราย และอยู่ระหว่างเจรจาเพิ่มอีก 4 ราย ด้านรถบริการให้เช่ารายวันกระแสตอบรับดี เริ่มทยอยรับรู้รายได้แล้ว มั่นใจเติบโตดี มีศักยภาพ โชว์งบ Q4/58 กำไรสุทธิเพิ่ม 351.96%
นายปิยะ เตชากูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอทีพี 30 จำกัด (มหาชน) หรือ ATP30 ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการรถรับส่งพนักงานจากแหล่งที่พักอาศัยในเขตชุมชนไปยังโรงงานอุตสาหกรรม หรือสถานประกอบการ โดยเฉพาะรอบเขตนิคมอุตสาหกรรมในภาคตะวันออก (Eastern Seaboard) เปิดเผยว่า ปีนี้มั่นใจว่าบริษัทจะเติบโตได้ดีทั้งรายได้ และกำไร
โดยตั้งเป้าหมายรายได้ในปี 59 ที่ประมาณ 310 ล้านบาท หรือเติบโตไม่น้อยกว่า 15% และคาดว่าจะมีกำไรที่สูงขึ้นจากปี 58 อย่างมาก โดยเป็นผลมาจากการบริหารจัดการต้นทุนได้ดีขึ้น และมีต้นทุนต่างๆ ลดลง โดยเฉพาะราคาน้ำมันซึ่งเป็นต้นทุนหลักของบริษัท รวมไปถึงการทยอยปลอดภาระค่าเสื่อมราคาของรถชุดแรก
นอกจากนี้ บริการของบริษัทยังได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าในภาคตะวันออก โดยในช่วงไตรมาสแรกบริษัทได้ลงนามในสัญญากับลูกค้ารายใหม่แล้ว จำนวน 3 ราย คาดว่าจะเริ่มให้บริการ และทยอยรับรู้รายได้ภายใน Q 1/59 อีกทั้งบริษัทยังอยู่ระหว่างการเจราจากับลูกค้ารายใหม่อีก 4 ราย ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปในช่วง Q2/59
ด้านธุรกิจรถเช่า VIP Van Service สำหรับให้บริการรับส่งรูปแบบรายวันแก่แขก หรือผู้บริหารของกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม พร้อมพนักงานขับรถที่ได้รับการคัดสรรมาเพื่อให้บริการแบบ VIP ได้รับกระแสการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้า ปัจจุบันได้เริ่มให้บริการ และมีการรับรู้รายได้เข้ามาแล้วแต่ยังมีสัดส่วนไม่มากนัก
“หลังจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ธุรกิจ และบริการของบริษัทเป็นที่รู้จักของกลุ่มลูกค้าองค์กรต่างๆ มากขึ้น ได้รับการติดต่อเพื่อให้นำเสนอบริการจากลูกค้าเป็นจำนวนมาก ซึ่งถือเป็นโอกาสสร้างการเติบโตทางธุรกิจที่ดีของบริษัท อย่างไรก็ตาม การขยายงานของ ATP30 จะต้องเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เติบโตทั้งด้านปริมาณ และคุณภาพ โดยยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาระบบการเดินรถ บุคลากร ตลอดจนการบริหารจัดการให้มีความพร้อม และเพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า” นายปิยะ กล่าว
นายปิยะ กล่าวต่อไปถึงผลประกอบการงวดไตรมาส 4/58 ว่า บริษัทมีรายได้ 67.35 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 62.79 ล้านบาท จำนวน 4.56 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้น 7.26% และบริษัทมีกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 15.79 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 23.44% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรขั้นต้น 11.11 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 17.69%
โดยบริษัทมีกำไรสุทธิ 5.74 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1.27 ล้านบาท จำนวน 4.47 ล้านบาท หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 351.96% และยังเติบโตใกล้เคียงงวด 9 เดือนของปี 58 ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 6.05 ล้านบาท
ส่วนผลประกอบการปี 58 บริษัทมีรายได้ 264.27 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 234.31 ล้านบาท จำนวน 29.96 ล้านบาท หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 12.79% และมีกำไรสุทธิ 11.80 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 8.04 ล้านบาท จำนวน 3.76 ล้านบาท หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 46.77%
ทั้งนี้ การที่ผลประกอบการของบริษัทมีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญจากการบริหารจัดการในด้านต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ ราคาน้ำมันซึ่งเป็นต้นทุนหลักปรับตัวลดลง ส่งผลให้สัดส่วนต้นทุนต่อรายได้ของบริษัทอยู่ในเกณฑ์ที่ดี และมีความสามารถในการทำกำไรสูงขึ้น
