เพซ ตั้งเป้าปี 63 รายได้ทะลุ 3 หมื่นล้าน มาจากดีน แอนด์ เดลูก้า กว่า 15,000 ล้านบาท ขณะที่รายได้จากอสังหา 1 หมื่นล้าน อีก 5,000 จากโรงแรม รีเทล เผยแผนลงทุนอสังหาฯ มูลค่าหมื่นล้านต่อปี จ่อเปิดตัวคอนโดฯ หรูย่าน ถ.นราธิวาช ไตรมาส 4 ปีนี้ ปี 60 รุกธุรกิจอสังหาฯ ญี่ปุ่น ผุดบ้านพักตากอากาศหลังละ 50-142 ล้านบาท ที่ฮอกไกโด พร้อมเตรียมจัดงาน “MAHANAKHON: BANGKOK RISING, THE NIGHT OF LIGHTS” ในวันที่ 29 สิงหาคมนี้ ไลต์โชว์บนตึกสูงครั้งแรกในประเทศไทย
นางสาวนฑา กิตติอักษร ประธานเจ้าหน้าบริหารฝ่ายการเงิน บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PACE เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าในปี 2563 จะมีรายได้ราว 30,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นปีที่บริษัทมีแผนจะนำหุ้นของดีน แอนด์ เดลูก้า เข้าตลาดหลักทรัพย์ โดยคาดว่ามูลค่าทางบัญชีจะสูงถึงกว่า 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ จากราคาที่ซื้อมาก่อนหน้านี้ 140 ล้านเหรียญสหรัฐ
สำหรับรายได้ 30,000 ล้านบาทดังกล่าว จะมาจากธุรกิจอาหาร และเครื่องดื่มกูร์เมต์ ดีน แอนด์เดลูก้า จำนวน 15,000 ล้านบาท โดยมีแผนขยายสาขาทั้งในสหรัฐฯ ไทย และญี่ปุ่น จำนวน 300 ในปี 2563 ส่วนรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 10,000 ล้านบาท และอีก 5,000 ล้านบาท จะมาจากธุรกิจให้บริการโรงแรม จุดชมวิวบนตึกมหานคร และรีเทล อย่างไรก็ตาม หากรายได้จากธุรกิจอาหารมีมากกว่าธุรกิจอสังหาฯ บริษัทมีแผนที่จะขอย้ายหมวดอุตสาหกรรมจากอสังหาริมทรัพย์เป็นหมวดอุตสาหกรรมอาหาร เนื่องจากมีมูลค่าทางบัญชี Book Value สูงกว่า
ส่วนแผนลงทุนอสังหา ตั้งเป้าลงทุนโครงการอสังหาฯ มูลค่ารวมกว่า 10,000 ล้านบาทต่อปี โดยในปี 2560 มีแผนเปิดตัวโครงการบ้านพักตากอากาศที่เมืองนิเซโกะ เกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น บนที่ดินเนื้อที่ 87 ไร่ 3 งาน พัฒนาเป็นบ้าน จำนวน 40 ยูนิต ราคา 52-142 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 4,000 ล้านบาท โดยจะเริ่มเปิดขายในช่วงเดือนธันวาคมปีนี้ เนื่องจากเป็นฤดูท่องเที่ยวของเกาะฮอกไกโด นอกจากนี้ ยังมีแผนลงทุนพัฒนาคอนโดย่านใจกลางเมืองกรุงเทพฯ อีก 1 โครงการ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาซื้อที่ดิน 3 แปลง แต่จะพิจารณาเลือกซื้อ 1 แปลง เพื่อพัฒนาโครงการ
สำหรับในปีนี้บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมแห่งใหม่ 1 โครงการย่านถนนนราธิวาส เป็นอาคารสูง 46 ชั้น จำนวน 36 ยูนิต พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้นที่ 400 ตารางเมตร มูลค่าโครงการ 2,800 ล้านบาท ปัจจุบันได้รับอนุมัติรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) แล้ว โดยเริ่มจะเปิดขายในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้
ด้าน นายสรพจน์ เตชะไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ฯ กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการมหานคร ว่าปัจจุบัน เดอะ ริทซ์-คาร์ลตันเรสซิเดนเซส ในโครงการมหานคร มียอดขายกว่า 70% ในไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมา มียอดโอนจำนวน 937 ล้านบาท จากยอดขายทั้งหมด 1 หมื่นล้านบาท และเพื่อปิดการขายให้ได้ในปีหน้า บริษัทจึงได้เตรียมแผนการการตลาด ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมโรดโชว์ที่ประเทศฮ่องกง และห้องตัวอย่างใหม่บนตึก รวมถึงการจัดอีเวนต์ในครั้งนี้ เพื่อสร้างกระแสการรับรู้ และต่อยอดการขายในระดับนานาชาติ
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ส่วนอื่นๆ ในโครงการไปในตัว ก่อนที่จะเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในปีหน้า ได้แก่ โรงแรม ร้านอาหารบนยอดตึก จุดชมวิวรวมถึงพื้นที่รีเทล มหานคร คิวบ์ และมีเดีย วอลล์ ซึ่งจะสร้างรายได้อย่างต่อเนื่องให้กับบริษัท ซึ่งตั้งใจที่จะสร้างจุดชมวิวบนชั้นสูงสุดของอาคารมหานคร ให้เป็นแลนด์มาร์กการท่องเที่ยวที่ทันสมัย เทียบเท่ากับจุดชมวิวบนอาคารสูงในเมืองหลักๆ ของโลก โดยคาดว่าจะสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ถึง 6 ล้านคนต่อปี ค่าเข้าชมประมาณ 500 บาท/คน ซึ่งคาดว่าบริษัทจะมีรายได้หลักจากการจำหน่ายบัตร และของที่ระลึกปีละไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาท โดยหลังจากเปิดให้บริการส่วนโรงแรม ร้านอาหาร และจุดชมวิวได้ประมาณ 1-2 ปี บริษัทฯ มีแผนที่จะนำรายได้ส่วนนี้จัดตั้งกองทุน REIT ต่อไป
“เพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จด้านการก่อสร้าง “มหานคร” อาคารที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศไทย 314 เมตร PACE พร้อมด้วยผู้สนับสนุน ได้แก่ SCB, CITI รวมถึง BMW ได้เตรียมจัดงาน “MAHANAKHON: BANGKOK RISING, THE NIGHT OF LIGHTS” ในวันที่ 29 สิงหาคมนี้ โดยมีไฮไลต์เป็นไลต์โชว์บนตึกสูงครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่ง PACE ได้นำเทคโนโลยีการฉายแสงจากประเทศเกาหลี ออกแบบโชว์พิเศษที่ล้อไปกับแนวพิกเซลที่โอบล้อมตัวอาคารที่สามารถมองเห็นได้จากทุกมุมของกรุงเทพมหานคร เพื่อประกาศความสำเร็จ และยกระดับกรุงเทพฯ สู่การเป็นเมืองหลวงโลก” นายสรพจน์ กล่าว
นอกจากการแสดงไลต์โชว์บนอาคารมหานครแล้ว ในวันและเวลาเดียวกัน PACE ยังได้เตรียมจัดคอนเสิร์ตบริเวณ “มหานคร สแควร์” เพื่อขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโครงการมาตั้งแต่แรกเริ่ม โดยจะมีการแสดงคอนเสิร์ตโดยศิลปินโอเปราระดับโลก “โฮเซ่ การ์เรรัส” พร้อมด้วยศิลปินชื่อดังของไทย อาทิ “ไทเทเนียม” “ดา เอ็นโดรฟิน” “กิต เดอะวอยซ์” และ “น้ำมนต์ ธีรนัยน์” และเพื่อให้คนกรุงเทพฯ ได้มีส่วนร่วมในการเฉลิมฉลองความสำเร็จครั้งสำคัญของประวัติศาสตร์การก่อสร้างอาคารที่สูงที่สุดในประเทศไทย PACE ยังได้จัดแคมเปญกิจกรรมประกวดภาพถ่ายไลท์โชว์บนตึกมหานคร ชิงรางวัลบัตรขึ้นจุดชมวิว “มหานคร ออบเซอเวชั่น เด็ค” 10,000 รางวัล พร้อมลุ้นรางวัลใหญ่มูลค่าสูงสุด 100,000 บาท รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท