xs
xsm
sm
md
lg

โฮม พอตเทอรี่ ไตรมาส 2 กำไรโต 56%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


โฮม พอตเทอรี่ โชว์กำไรไตรมาส 2 โต 56% รายได้รวม 29.71 ล้านบาท ปริมาณขายเพิ่ม กวาดออเดอร์สินค้ามาร์จิ้นสูง ประเมินครึ่งปีหลังทิศทางภาพรวมอุตสาหกรรมขยายตัวดี วางเกมรุกตลาด และเพิ่มช่องทางจำหน่ายทั้งใน และต่างประเทศเต็มสูบ พร้อมปรับปรุงประสิทธิภาพเตาเผาใหม่ต่อเนื่อง การันตีรายได้รวมปีนี้เข้าเป้าโต 15-25%

นางสาวนิจวรรณ เชาว์กิตติโสภณ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โฮม พอตเทอรี่ จำกัด (มหาชน) หรือ HPT เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 2/59 บริษัทมีกำไรสุทธิที่ 2.85 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 56% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1.83 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีการจำหน่ายสินค้าเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งมีออเดอร์สินค้าที่มีลักษณะดีไซน์เป็นงานฝีมือหลากหลายเพิ่มขึ้น เช่น งานวาดสีต่างๆ ซึ่งเป็นสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง ขณะที่บริษัทมีรายได้รวมในไตรมาส 2/59 เท่ากับ 29.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.07% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 27.48 ล้านบาท

ขณะที่ผลประกอบการครึ่งแรกของปี 59 รายได้ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ส่วนกำไรสุทธิครึ่งปีแรกอยู่ที่ 5.12 ล้านบาท เติบโตขึ้น 18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 58 ที่ทำไว้ 4.34 ล้านบาท สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมเซรามิกครึ่งปีหลัง เชื่อว่ายังสามารถเติบโตได้ดี บริษัทจึงวางแผนเน้นทำการตลาด และเพิ่มช่องทางการจำหน่ายมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดในประเทศ และกลุ่มประเทศใน AEC หลังจากได้จัดตั้งบริษัท Central Hospitality ซึ่งเป็นบริษัทเพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์เซรามิกไฟน์ไชน่า แบรนด์ PE’TYE และสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ และอุปกรณ์สำหรับประกอบอาหาร

ขณะที่สัดส่วนรายได้ปัจจุบันของ HPT แบ่งเป็น ตลาดต่างประเทศ 98% โดยรายได้หลักมาจากประเทศ สหรัฐอเมริกา รองลงมา คือ ยุโรป ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และสัดส่วนรายได้จากตลาดกลุ่มประเทศ AEC อยู่ที่ 2% ทั้งนี้ บริษัทมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนรายได้ในประเทศ และกลุ่มประเทศ AEC เพิ่มขึ้นเป็น 4% ภายในปี 2560 เนื่องจากเป็นกลุ่มประเทศที่มีศักยภาพในการท่องเที่ยว และการโรงแรม โดยในเดือนตุลาคมนี้จะไปเข้าร่วมออกแสดงสินค้า เพื่อประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์เซรามิกไฟน์ไชน่าแบรนด์ PE’TYE ที่กัมพูชา ซึ่งถือเป็นการเข้าไปศึกษา และขยายตลาดกัมพูชา เป็นครั้งแรก

นอกจากนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าปรับปรุงสายการผลิตสำหรับเตาเผาใหม่เพิ่มเติม เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ ซึ่งสามารถเพิ่มกำลังการผลิตอีก 20% จากปัจจุบันมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 3 ล้านชิ้นต่อปี ปัจจัยดังกล่าวจะช่วยผลักดันยอดขายของบริษัทให้เติบโตต่อเนื่องอย่างแน่นอน

“บริษัทมั่นใจว่า รายได้ปีนี้จะเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ 15-25% จากปีก่อนที่มีรายได้ 115.12 ล้านบาท โดยเป็นผลจากการจำหน่ายสินค้ามากขึ้นตามกำลังการผลิตใหม่ที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งการขยายฐานลูกค้าทั้งใน และต่างประเทศ ซึ่งบริษัทมีนโยบายรักษาอัตรากำไรขั้นต้นไว้ที่ประมาณ 30-35% และอัตรากำไรสุทธิที่ประมาณ 10-15%” นางสาวนิจวรรณ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น