ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น ไตรมาส 2 อวดรายได้รวม และส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในบริษัท และกิจการร่วมค้า 1,984.1 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 334.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างกระโดดจากปีก่อน จากการรับรู้รายได้ของ HEMRAJ ทั้งในส่วนของการขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรม รวมถึงการเติบโตของรายได้ค่าเช่า และค่าบริการคลังสินค้า ศูนย์กระจายสินค้า และโรงงาน การให้บริการระบบสาธารณูปโภค ตลอดจนการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนธุรกิจโรงไฟฟ้าเพิ่มขึ้น เตรียมลัดฟ้า โรดโชว์ ฮ่องกง-ยุโรป เดือนกันยายนนี้
นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวม และส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในบริษัท และกิจการร่วมค้า 1,984.1 ล้านบาท ใกล้เคียงกับงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวม และส่วนแบ่งกำไรฯ ที่ 2,023.4 ล้านบาท แต่รายงานกำไรสุทธิอยู่ที่ 334.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดกว่า 48% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไร 226.1 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากการลดต้นทุนดอกเบี้ยจ่าย เนื่องจากการชำระคืนหนี้สถาบันการเงิน และการออกหุ้นกู้ที่มีต้นทุนทางการเงินต่ำกว่า รวมทั้งการลดลงของค่าใช้จ่ายอื่นๆ
ส่วนผลดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2559 บริษัทฯ มีรายได้รวม และส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในบริษัท และกิจการร่วมค้า 3,707.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44.2% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวม และส่วนแบ่งกำไรฯ ที่ 2,571.2 ล้านบาท เนื่องจากการรับรู้รายได้จาก บมจ.เหมราชพัฒนาที่ดิน (HEMRAJ) ในงวด 6 เดือนแรก รวมทั้งการเติบโตของรายได้ค่าเช่า และค่าบริการรวมทั้งค่าบริการระบบสาธารณูปโภค ซึ่งเติบโตขึ้นจาก 1,261.5 ล้านบาท เป็น 1,717.5 ล้านบาท หรือเติบโตกว่า 36.1% โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 454.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไร 221.5 ล้านบาท หรือกว่าร้อยละ 105
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังสามารถรับรู้รายได้จากการขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรม และอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนอีกจำนวน 822.1 ล้านบาท ซึ่งเติบโตจากงวดเดียวกันปีก่อน 288.6 ล้านบาท หรือ 54.1% ตลอดจนการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม และกิจการร่วมค้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นธุรกิจโรงไฟฟ้าอีกจำนวน 940.8 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ 477.8 ล้านบาท ซึ่งมีอัตราการเติบโตที่ 97% หรือ 463 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันในปี 2558
ขณะมองภาพรวมธุรกิจในครึ่งปีหลัง 2559 ว่า บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายพื้นที่ให้เช่าคลังสินค้า และศูนย์กระจายสินค้า รวมถึงโรงงานระดับพรีเมียมเพิ่มมากขึ้นตามแผนที่ได้วางไว้ โดยในปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าการขยายพื้นที่เช่าไว้ที่ 250,000 ตารางเมตร นำโดย Built-to-Suit นอกจากนี้ บริษัทฯ คาดว่าจะขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมในปีนี้ได้ถึง 1,000 ไร่ จากการขยายตัวของอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เพื่อรองรับการเติบโตของประเทศในกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
สำหรับความคืบหน้าของในการจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (Real Estate Investment Trust : REIT) นั้น ล่าสุด บริษัท เหมราช รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัด อยู่ระหว่างการรออนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เหมราช (Hemaraj Leasehold Real Estate Investment Trust (HREIT)) มูลค่ารวมไม่เกิน 8,690 ล้านบาท ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่าจะเข้าซื้อขายได้ภายในต้นไตรมาส 4/2559
พร้อมกันนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างการเตรียมขายทรัพย์สินเพิ่มเติมของ WHA เข้ากองทรัสต์ WHART ในมูลค่าประมาณ 4,190 ล้านบาท โดยคาดว่าบริษัทฯ จะเสนอขายแล้วเสร็จในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งจะส่งผลขนาดทรัพย์สินของกองทรัสต์ WHART เพิ่มเป็น 13,000 กว่าล้านบาท จากปัจจุบัน 9,000 ล้านบาท
โดยเงินที่ได้จากการขายสินทรัพย์ของกองทรัสต์ ทั้ง 2 กอง บริษัทฯ จะนำไปชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน เพื่อเป็นการลดต้นทุนทางการเงินของบริษัทฯ ตามแผนการลดภาระหนี้สินของบริษัทฯ และต้นทุนทางการเงินที่บริษัทฯ วางไว้ ตลอดจนใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือนกันยายนนี้ บริษัทฯ เตรียมเดินสายนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) ให้กับนักลงทุนสถาบันต่างประเทศ ร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์ CLSA อาทิ ยุโรป และฮ่องกง เพื่อเป็นการตอกย้ำศักยภาพ การก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านลอจิสติกส์ อสังหาริมทรัพย์ และนิคมอุตสาหกรรม แบบครบวงจรในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน