ราคาทองคำได้ปัจจัยบวกจากการประกาศลดอัตตราดอกเบี้ย และการใช้มาตรการ QE ของ BOE ที่กดดันให้การประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดเกิดขึ้นได้ยาก ลุ้นหากทะลุ 1,375 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ มีโอกาสเจอแรงขายทำกำไรกดดัน จับตาเศรษฐกิจจีนหนี้เสียสูงจัดอาจทำให้การลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจทำได้ยาก ส่งผลทองคำไร้ปัจจัยสนับสนุนเพิ่ม
“วรุต รุ่งขำ” ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ วายแอลจี บูเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส กล่าวถึงทิศทางราคาทองคำว่า ช่วงที่ผ่านมา ราคาทองคำไม่ได้มีความผันผวนมากนัก เนื่องจากนักลงทุนยังคงจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางอังกฤษ หรือว่า BOE แต่อย่างไรก็ตาม ผลการประชุมดังกล่าวไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมายของนักลงทุนมากนัก และออกมาเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลในเชิงบวกต่อราคาทองคำ จากการที่ BOE มีการประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงจาก 0.5% เหลือ 0.25% และมีการประกาศใช้ในตัวของมาตราการ QE เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ เพราะปัจจัยดังกล่าวกดดันให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด มีความยากลำบากในการปรับอัตราดอกเบี้ย และส่งผลให้นักลงทุนคาดการณ์ว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดอาจจะถูกชะลอออกไป ทำให้ยังคงจับตาดูเศรษฐกิจในฝั่งสหรัฐฯ ในระยะถัดไปเพื่อประเมินต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญในการชี้นำทิศทางราคาทองคำ
สำหรับปัจจัยที่จะต้องจับตา นอกเหนือทิศทางเศรษฐกิจซึ่งจะมีการเปิดเผยจำนวนผู้ฃอรับสวัสดิการการว่างงาน ยังต้องติดตามดัชนีราคาผู้ผลิต ซึ่งเป็นอัตรา หรือมาตราวัดทิศทางเงินเฟ้อในการผลิต และยอดค้าปลีก รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ขณะเดียวกัน ยังมีตัวเลขเศรษฐกิจจีน ที่ได้เปิดเผยดุลการค้าถือว่าเป็นสัญญาณที่สำคัญ เพราะเริ่มมีกระแสการคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนมีทิศทางที่แข็งแกร่งมากขึ้น ประกอบกับอัตราหนี้เสียในฝั่งจีนเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้น ที่ทางการจีนจะมีการปรับลดในส่วนของอัตราดอกเบี้ยลง เพื่อเป็นการกระตุ้นมาตราการเศรษฐกิจจะทำได้ยากขึ้น ซึ่งหากทางการจีนมีการชะลอการอัดฉีดสภาพคล่อง หรือชะลอในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยออกไปอาจจะทำให้ทองคำขาดปัจจัยหนุนเพิ่มเติม
ดังนั้น กลยุทธ์ในการลงทุนช่วงนี้ สำหรับการลงทุนระยะสั้นจากการแกว่งตัวในกรอบราคาอาจจับตาดูระดับสูงสุดของปีบริเวณ 1,375 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ ซึ่งระดับดังกล่าวหากเทียบจากต้นปีถือว่าทองคำให้ผลตอบแทนราว 20% กว่า ดังนั้น อาจจะเกิดแรงจูงใจให้ขายทำกำไรออกมา แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากแนวโน้มหรือโมเมนตัมของราคาทองคำยังมีโอกาสยกระดับสูงสุดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงประเมินว่าหากราคาผ่านเหนือระดับ 1,375 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ ขึ้นไปได้ ราคาทองคำจะมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปบริเวณ 1,390 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ โดยการเข้าซื้ออาจรอในส่วนของการอ่อนตัวลงมาของราคา แต่ไม่หลุดโซนแนวรับ ดยประเมินในส่วนแนวรับระยะสั้นบริเวณ 1,338 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ และถ้าไม่หลุดแนวโน้ม หรือโมเมนตัมของทองคำยังคงเป็นบวกอย่างต่อเนื่อง แต่หากเกิดแรงขายค่อนข้างมาก หรือมีปัจจัยออกมากดดันจนหลุด 1,338 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ แนวโน้มเชิงบวกอาจ
เสียไป และโอกาสที่ราคาจะมีการปรับฐานลงทดสอบแนวรับถัดไปบริเวณ 1,310 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ อาจเกิดขึ้น