“คลัง” จี้ รสก.เร่งลงทุน หวังอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบ ผลักดัน ศก.ขยายตัว

“คลัง” กำชับรัฐวิสาหกิจเร่งเบิกจ่ายงบลงทุน ห้ามยกเลิกโครงการแต่ถ้าลงทุนไม่ได้ต้องหาโปรเจกต์อันใหม่เข้ามาทดแทน เพื่ออัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบ ผลักดันเศรษฐกิจขยายตัว ตามนโยบายของรัฐบาล

นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง เปิดเผยว่า การทำสัญญาผูกพันงบลงทุนปีงบประมาณ 2559 วงเงิน 5.4 แสนล้านบาท ทำสัญญาผูกพันไปแล้ว 3.85 แสนล้านบาท หรือ 70% หากคิดแต่งบลงทุนไม่รวมงบกลางวงเงิน 4.57 แสนล้านบาท ทำสัญญาผูกพันไปแล้ว 3.84 แสนล้านบาท หรือ 84.5% เฉลี่ยมีการทำสัญญาผูกพันเฉลี่ยเดือนละ 8,000 ล้านบาท ทำให้คาดว่าในช่วง 3 เดือนที่เหลือของปีงบประมาณ 2559 จะสามารถทำสัญญาผูกพันงบลงทุนที่ไม่รวมงบกลางได้สูงถึง 90% ซึ่งถือว่าสูงมาก ส่วนการเบิกจ่ายก็ต้องเป็นไปตามงวดงาน เพราะหลายโครงการเป็นโครงการขนาดใหญ่ ต้องใช้เวลาในการก่อสร้าง และมีการเบิกจ่ายเป็นงวดๆ ไม่ได้เบิกจ่ายครั้งเดียว

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้ทำการติดตามการเบิกจ่ายงบลงทุนอย่างใกล้ชิด เพราะมีส่วนช่วยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยอย่างมาก โดยเฉพาะงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจมีจำนวนมาก 3-4 แสนล้านบาท ใกล้เคียงกับงบลงทุนของหน่วยงานรัฐที่มีกว่า 5 แสนล้านบาท ซึ่งตอนนี้ได้เร่งให้รัฐวิสาหกิจลงทุนให้ได้ตามแผน ไม่ให้มีการชะลอออกไป

นอกจากนี้ จะไม่ให้รัฐวิสาหกิจยกเลิกโครงการลงทุนที่ได้เสนอมาแล้ว หากลงทุนไม่ได้ก็ต้องหาโครงการลงทุนใหม่มาใส่ทำแทน เพราะรัฐบาลต้องการให้มีเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจตามแผนที่ได้คาดการณ์ไว้ การยกเลิกโครงการลงทุนจะทำให้เม็ดเงินไม่ได้ตามแผน ส่งผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ จะกระทบความเชื่อมั่นของนักลงทุนได้

“รัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ อย่างเช่น การท่าอากาศยานไทย การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย มีงบลงทุนจำนวนมาก ก็ได้กำชับให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ดูการเบิกจ่ายของรัฐวิสาหกิจใกล้ชิด ให้มีงบลงทุนออกมาช่วยเศรษฐกิจ หากติดขัดตรงไหนก็ให้รีบดำเนินการแก้ไข โครงการไหนทำไม่ได้ก็ต้องหาโครงการอื่นมาเติม ไม่ให้ตัดโครงการที่เสนอมาแล้วไปเฉยๆ” นายวิสุทธิ์ กล่าว

ก่อนหน้านี้ นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง ได้เปิดเผยว่า การเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายปี 2559 ในช่วง 9 เดือน วงเงินงบประมาณ 2.72 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 74.99% สูงกว่าเป้าหมาย 1.99% และสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 2.99%

การเบิกจ่ายแบ่งเป็นรายจ่ายประจำ เบิกจ่ายแล้ว 1.77 ล้านล้านบาท ของวงเงินงบประมาณ 2.17 ล้านล้านบาท คิดเป็น 81.59% ขณะที่รายจ่ายลงทุนไม่รวมงบกลางเบิกจ่ายแล้ว 2.63 แสนล้านบาท ของวงเงินงบประมาณ 4.57 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 57.64% การเบิกจ่ายเงินงบประมาณของภาครัฐในภาพรวมเบิกจ่ายได้สูงขึ้น เนื่องจากนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้ส่วนราชการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2559 ให้เป็นไปตามเป้าหมาย เพื่อให้มีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจช่วงครึ่งหลังของปี ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศขยายตัวตามเป้าหมายที่ตั้งไว้