ผู้จัดการกองทุนมั่นใจ นักลงทุนทั้งไทย และต่างชาติ สนใจกองทุน Thailand Infrastructure Fund ชี้เป็นกองทุนที่ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ แนะรัฐจูงใจเพิ่มผลตอบแทนสูงกว่าพันธบัตรรัฐบาล
นายสมิทธ์ พนมยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.ไทยพาณิชย์ กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงการคลังเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรีจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย หรือ Thailand Infrastructure Fund ( TIF) ในอีก 2 สัปดาห์ เพื่อระดมทุนลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน มูลค่า 100,000 ล้านบาท เชื่อว่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั้งในประเทศ ต่างประเทศ และสถาบัน เนื่องจากเป็นการลงทุนโครงการของรัฐบาล เช่น ถนน รถไฟฟ้า ทางด่วน ที่ให้ผลตอบมั่นคง และสม่ำเสมอ ความเสี่ยงต่ำ และยังเป็นประโยชน์ต่อรัฐบาล ลดภาระด้านการคลัง และงบประมาณที่จะใช้ลงทุนในโครงการต่างๆ ลดต้นทุนด้านลอจิสติกส์ของไทย ซึ่งใน 10 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยขาดการลงทุนขนาดใหญ่ ดังนั้น เมื่อมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเป็นรูปธรรมจะสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนได้
ขณะที่ นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.กรุงไทย เชื่อว่า นักลงทุนจะให้ความสนใจกองทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล แต่จะมาก หรือน้อยขึ้นอยู่กับผลตอบแทนที่กองทุนฯ ให้กับนักลงทุน โดยมองว่า รัฐบาลควรจูงใจโดยกำหนดผลตอบแทนควรมากกว่าการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล
ด้าน นายวศิน วณิชย์วรนันต์ ประธานกรรมการบริหาร บลจ.กสิกรไทย กล่าวว่า กองทุนโครงสร้างพื้นฐานน่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุน เพราะปัจจุบัน อัตราดอกเบี้ยต่ำลงต่อเนื่อง ซึ่งการลงทุนกองทุนดังกล่าวจะสามารถตอบโจทย์การให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอใกล้เคียงกับผลตอบแทนของกองทุนอสังหาริมทรัพย์ ที่หากเศรษฐกิจขยายตัวดี ผลตอบแทนกองทุนอสังหาริมทรัพย์จะขยายตัวใกล้เคียงร้อยละ 8-9 แต่หากเศรษฐกิจชะลอตัวลง ผลตอบแทนจะอยู่ที่ร้อยละ 5-7 แน่นอน