“แฮปปี้ แลนด์” ขยับเพิ่มลงทุนในธุรกิจอสังหาฯ ตามเป้าภายใน 3 ปี ยอดขายหมื่นล้านบาท ลุยสร้างแบรนด์ “เอชเคป” (H-CAPE) ให้ติดตลาด พร้อมเปิดโครงการใหม่ “บ้านเอชเคป ซีรีน” อ่อนนุช-สุขาภิบาล 2 ทำตลาดระดับราคา 6.5-13 ล้าน มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท ยอดขายถูกดูดซับแล้ว 20% เผยเจรจาซื้อที่ดินจากกลุ่มทุนจีนย่านพระราม 9 เสร็จแล้ว พร้อมดึงทุนร่วมทุนทำบิ๊กโปรเจกต์บนเนื้อที่ 50 ไร่เศษ มูลค่าเบื้องต้นครึ่งหมื่นล้านบาท เผยเป้ารายได้ปีนี้ 2,500-3,000 ล้านบาท
นายภัควัฒน์ สุขเกษม กรรมการบริหารสายงานบริหารโครงการ บริษัท แฮปปี้ แลนด์ กรุ๊ป กล่าวถึงเป้าการดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ว่า ยังคงเดินหน้าในการลงทุน และพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตามแผน 3 ปี (2559-2561) ทางบริษัทได้วางเป้าให้มียอดขายประมาณ 10,000 ล้านบาท หลักๆ มาจากธุรกิจโฮมออฟฟิศ 50% คอนโดมิเนียม 30% และบ้านเดี่ยวอีก 20% ปัจจุบันมี 2 โครงการที่อยู่ระหว่างการขาย ได้แก่ โครงการ เอชเคป มิเนอรา (H-CAPE MINERA) โครงการบ้านเดี่ยวระดับไฮเอนด์ราคา 18 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 700 ล้านบาท ที่ตั้งโครงการ ซ.สวนสยาม 24 เขตคันนายาว กรุงเทพฯ มีจำนวน 22 ยูนิต แยกเป็นบ้านพร้อมอยู่ 10 ยูนิต และบ้านสั่งสร้าง 12 ยูนิต เหลือการขาย 80%
ล่าสุด ทางแฮปปี้ แลนด์ ได้มีโครงการใหม่ “บ้านเอชเคป ซีรีน” มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท ตั้งอยู่บนถนนอ่อนนุช-สุขาภิบาล 2 เขตประเวศ กรุงเทพฯ พัฒนาในรูปแบบบ้านเดี่ยว บนเนื้อที่โครงการ 54 ไร่ จำนวน 250 ยูนิต ราคา 6.5-13 ล้านบาท ขนาดที่ดินตั้งแต่ 50-60-90 ตารางวา (ตร.วา) แบ่งพัฒนาออกเป็น 4 เฟสใหญ่ 16 กลุ่ม เหลือการขาย 80%
ในส่วนของโครงการที่ปิดการขายแล้ว (Sold Out) ได้แก่ โครงการเอชเคป บิซ พลัส รูปแบบทาวน์โฮม 3 ชั้น จำนวน 26 ยูนิต ราคา 8.9-12.8 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 238 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มโอนให้ลูกค้าในช่วงปลายเดือน ก.ย. และโครงการเอชเคป บิซ เซ็คเตอร์ ระดับไฮเอนด์ จำนวน 60 ยูนิต ราคา 9-15 ล้านบาท มูลค่า 677 ล้านบาท ซึ่งทั้งสองโครงการตั้งอยู่บนถนนอ่อนนุช-สุขาภิบาล 2 เขตประเวศ กทม.
“สินค้าที่แฮปปี้ แลนด์ พัฒนา จะเน้นฐานลูกค้าระดับพรีเมียม เหตุผลเพราะเราสร้างบ้านราคาแพงตั้งแต่รุ่นบุกเบิกในระดับราคา 6 ล้านบาท ซึ่งเราเชื่อมั่นในสินค้าที่เราทำ โดยที่ลูกค้าก็ให้ตอบรับ และยอมรับในโครงการของบริษัท ทั้งนี้ การที่ตนเข้ามานั่งบริหาร แม้จะเคยผ่านโครงการประเภทคอนโดมิเนียมมาหลายโครงการ แต่การจะเข้ามาปรับเปลี่ยนอะไรบางอย่างในองค์กรก็คงไม่ใช่ อีกทั้งนโยบายของผู้ถือหุ้นก็มองว่า ทำโครงการไปเรื่อยๆ ซึ่งเวลาพูดถึงแฮปปี้ แลนด์ ลูกค้าจะนึกถึงตลาดบางกะปิ ดังนั้น การเปลี่ยนชื่่อโครงการเป็นเอชเคปก็จะเป็นการสร้างแบรนด์”
ในส่วนของรายได้นั้น ในปีนี้วางเป้าไว้ประมาณ 2,500-3,000 ล้านบาท เติบโตประมาณ 30-40% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 58 ทั้งนี้ โดยรายได้ในปีนี้จะมีแบ็กล็อกจากโครงการเอชเคป บิซ พลัส ประมาณ 10%
นายภัควัฒน์ กล่าวถึงความคืบหน้าการเจรจาซื้อที่ดินย่านพระราม 9 จากกลุ่มทุนจีน ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินว่า ที่ดิน 3 ไร่เศษดังกล่าว ซึ่งอยู่เยื้องๆ ฟูดส์แลนด์ ทางจีนปล่อยให้ทางบริษัทฯ แล้ว เพียงแต่ขณะนี้ตนกำลังเจรจาที่จะดึงกลุ่มดังกล่าวมาร่วมพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ในรูปแบบมิกซ์ยูส ซึ่งมีทั้งโครงการคอนโดมิเนียม และพื้นที่ค้าปลีก และอาจจะมีโครงการอื่นๆ ที่จะตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยที่จะใช้ชีวิตได้อย่างสบาย และมีสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับ คาดว่าโครงการดังกล่าวจะมีมูลค่าประมาณ 5,000 ล้านบาท โดยภายในปลายปีนี้จะมีความชัดเจน และจะเริ่มดำเนินการจริงในปี 2560 และตามแผนจะเริ่มรับรู้รายได้ในปี 2561
“เรามองว่าโครงการนี้ใหญ่มาก เหมือนเทหน้าตักหมดเลย ซึ่งจีนเสนอตัวเข้ามาเหมือนกัน แต่เรากำลังดูว่า โครงการนี้กลุ่มลูกค้าเป็นอย่างไร แต่ทั้งนี้ การดำเนินโครงการอาจจะต้องมองปัจจัยอื่นๆ ประกอบด้วย โดยเฉพาะสิ่งที่ผมกลัว คือ ความไม่แน่นอน ซึ่งมองว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไม่มีล้มพัง แต่หากอสังหาฯ ดีขึ้น ก็จะทำให้ธุรกิจในประเทศดีขึ้นไปด้วย”
สำหรับโครงการอื่นๆ ทางกลุ่มแฮปปี้ แลนด์ ยังมีที่ดินรอการพัฒนาจำนวนมาก อาทิเช่น ที่ดินแถวบางกะปิ เนื้อที่ใหญ่มาก คาดว่ามีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท ที่ดินย่านบางนา 10 ไร่ เป็นต้น