ทีดับบลิวแซดฯ มั่นใจแรงส่งจากยอดขายครึ่งปีแรกดันรายได้ทั้งปี 2559 โตตามเป้าหมายที่วางไว้ หลังไตรมาสแรกรับรู้รายได้จากการขายสินค้าล็อตใหญ่ให้แก่โอเปอเรเตอร์รายใหญ่ ระบุอานิสงส์ยอดขายยังต่อเนื่องถึงไตรมาสที่ 2 ปีนี้ ขณะที่รายได้จากอุปกรณ์เสริมจะเด่นชัดขึ้น หลังดันอุปกรณ์ระดับพรีเมียมเข้าสู่ตลาด ส่วนการให้บริการแอปพลิเคชัน “อีซี การ์ด” ไปได้สวย เช่นเดียวกับโครงการอสังหาริมทรัพย์ “เดอะ เพเซอร์ พัทยา” ที่ล่าสุด ยอดขายทะลุ 50% เผยเตรียมเดินหน้าดันโครงการอสังหาฯ เพิ่ม
นางปิยะนุช รังคสิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TWZ ผู้จำหน่าย และให้บริการต่างๆ เกี่ยวกับอุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคม เปิดเผยว่า หลังจากผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกของปี 2559 บริษัทฯ สามารถสร้างรายได้จากการขายได้สูงถึง 955 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ 75.47 ล้านบาท ซึ่งรายได้ส่วนหนึ่งมาจากการขายสินค้าล็อตใหญ่ให้แก่ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่ (โอเปอเรเตอร์) ทำให้บริษัทฯ มั่นใจว่า รายได้ตลอดทั้งปี 2559 จะสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ 5,000 ล้านบาท โดยมีแรงส่งจากยอดขายสินค้าในช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากสินค้าที่ส่งให้แก่โอเปอเรเตอร์ยังมีการรับรู้รายได้ต่อเนื่องในไตรมาสที่ 2
“ปีนี้เป็นปีพิเศษของ TWZ ทั้งจากการเติบโตของธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม การขยายเครือข่าย 4G และการแข่งขันของผู้ประกอบการ ซึ่งส่งผลดีต่อเรา โดยแรงส่งจะต่อเนื่องตลอดครึ่งแรกของปีนี้ ซึ่งนอกจากรายได้ของการขายสินค้าโทรศัพท์มือถือแล้ว TWZ ยังมียอดขายที่รับรู้อย่างมีนัยสำคัญมากขึ้นในสินค้าหมวดอุปกรณ์เสริม เพราะ TWZ จะส่งอุปกรณ์เสริมที่มีคุณภาพสูงเข้าสู่ตลาดมากขึ้น รวมถึงรายได้จากการให้บริการแอปพลิเคชัน “อีซี การ์ด” ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันที่ทำหน้าที่เป็นกระเป๋าสตางค์ออนไลน์ “อี-มันนี่” (E-Money) ที่พัฒนาร่วมกับบริษัท ไอพี เพย์เมนท์ โซลูชั่น จำกัด หรือ IPPS ผู้ให้บริการชำระเงินออนไลน์ “เพย์ฟอร์ยู” เพื่อผู้บริโภคสามารถเข้าถึงการจับจ่ายใช้สอยสินค้า และบริการได้สะดวกขึ้น ก็เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้” นางปิยะนุช กล่าว
ในส่วนของโครงการอสังหาริมทรัพย์ก็มีความคืบหน้า โดยโครงการ เดอะ เพเซอร์ พัทยา ซึ่งเป็นโครงการภายใต้การดูแลของ TWZ มียอดขายโครงการแล้วกว่า 50% คาดว่าจะขายหมด และรับรู้รายได้ทั้งหมดภายในปี 2560 ขณะที่โครงการในส่วนของบริษัท ปิยะชาติ จำกัด ที่ TWZ ถือหุ้น 100% ก็เตรียมที่จะเดินหน้าโครงการใหม่ทั้ง เดอะ เพเซอร์ ระยอง มูลค่าโครงการ 700 ล้านบาท เดอะ เพเซอร์ เขาใหญ่ มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท รวมทั้งมีแผนที่จะขยายโครงการคอนโดมิเนียมทั้งในกรุงเทพฯ และเมืองใหญ่ๆ อย่างต่อเนื่อง
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ ได้เผยแพร่บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ TWZ โดยให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 0.49 บาท โดยประเมินว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปีนี้จะโดดเด่นจากคู่ค้าสำคัญอย่าง ADVANC ต้องเร่งแผนการดึงส่วนแบ่งตลาดคืนจากคู่แข่ง หลังจากการประมูล 4G ทำให้ TWZ ได้รับอานิสงส์ในด้านเงินสนับสนุนการขาย นอกจากนี้ ปัญหาภัยแล้งเริ่มคลี่คลาย ทำให้การบริโภคในต่างจังหวัดซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของ TWZ เริ่มฟื้นตัว และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เริ่มรับรู้รายได้ ซึ่งจะช่วยกระจายความเสี่ยงให้แก่ธุรกิจสื่อสาร