บล.แอพเพิล เวลธ์ มองแนวโน้มตลาดหุ้นไทยเดือน มิ.ย.แกว่งตัวในกรอบ 1,380-1,430 จุด แนะจับตาการประชุมกลุ่มโอเปก-เฟด ระบุ SET มีโอกาสขึ้นไปทดสอบ 1,480 จุด หากราคาน้ำมันยืนเหนือ 50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล แนะกลยุทธ์การลงทุนแบบ Selective Buy กลุ่มแบงก์ยกนิ้วให้ KBANK-SCB-BAY เนื่องจากราคาค่อนข้างต่ำ ส่งออกเชียร์ซื้อ CPF-KCE รับอานิสงส์เต็มๆ บาทอ่อน
นายอภิชัย เรามานะชัย รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ แอพเพิล เวลธ์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยในเดือนมิถุนายน 2559 คาดแกว่งตัวในกรอบ 1,380-1,430 จุด แต่ในกรณีที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกสามารถยืนเหนือระดับ 50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ได้อาจจะส่งให้ Upside ดัชนีฯ วิ่งขึ้นได้ถึงระดับ 1,460-1,480 จุด
“ประเด็นสําคัญที่ต้องติดตามในเดือน มิ.ย.นี้ คือ การประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) ในวันที่ 2 มิ.ย. การประชุมเฟด 14-15 มิ.ย. และประชามติ Brexit 23 มิ.ย.นี้ ว่า อังกฤษจะออกจากกลุ่มยูโรหรือไม่ ส่วนประเด็นการขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐฯ ใน มิ.ย. หรือ ก.ค.นี้ ผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยน่าจะจํากัด เนื่องจากตั้งแต่ต้นปีนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเพียง 1.6 หมื่นล้านบาท แต่อาจจะมีความผันผวนในตลาดพันธบัตร” นายอภิชัย กล่าว
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนแนะนำ Selective Buy เนื่องจากตลาดหุ้น และสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆ เช่น ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ราคาน้ำมัน อาจจะมีความผันผวนระยะสั้นในช่วงเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยแนะนําซื้อลงทุนหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ เช่น KBANK SCB BAY เนื่องจากราคาปัจจุบันค่อนข้างต่ำ และความกังวลต่อ Spread NIM ลดลง กลุ่มส่งออก CPF KCE ได้ประโยชน์จากทิศทางค่าเงินบาทอ่อน BEM ถูกนําเข้าคํานวณใน SET 50 ขณะที่แนวโน้มรายได้ปรับเพิ่มขึ้นจากการเปิดรถไฟฟ้าสายสีม่วงในเดือน ส.ค.นี้ และ CPALL รับปัจจัยบวกการบริโภคที่คาดจะเพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลฟุตบอลยูโร 2016
นายอภิชัย เรามานะชัย รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ แอพเพิล เวลธ์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยในเดือนมิถุนายน 2559 คาดแกว่งตัวในกรอบ 1,380-1,430 จุด แต่ในกรณีที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกสามารถยืนเหนือระดับ 50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ได้อาจจะส่งให้ Upside ดัชนีฯ วิ่งขึ้นได้ถึงระดับ 1,460-1,480 จุด
“ประเด็นสําคัญที่ต้องติดตามในเดือน มิ.ย.นี้ คือ การประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) ในวันที่ 2 มิ.ย. การประชุมเฟด 14-15 มิ.ย. และประชามติ Brexit 23 มิ.ย.นี้ ว่า อังกฤษจะออกจากกลุ่มยูโรหรือไม่ ส่วนประเด็นการขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐฯ ใน มิ.ย. หรือ ก.ค.นี้ ผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยน่าจะจํากัด เนื่องจากตั้งแต่ต้นปีนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเพียง 1.6 หมื่นล้านบาท แต่อาจจะมีความผันผวนในตลาดพันธบัตร” นายอภิชัย กล่าว
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนแนะนำ Selective Buy เนื่องจากตลาดหุ้น และสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆ เช่น ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ราคาน้ำมัน อาจจะมีความผันผวนระยะสั้นในช่วงเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยแนะนําซื้อลงทุนหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ เช่น KBANK SCB BAY เนื่องจากราคาปัจจุบันค่อนข้างต่ำ และความกังวลต่อ Spread NIM ลดลง กลุ่มส่งออก CPF KCE ได้ประโยชน์จากทิศทางค่าเงินบาทอ่อน BEM ถูกนําเข้าคํานวณใน SET 50 ขณะที่แนวโน้มรายได้ปรับเพิ่มขึ้นจากการเปิดรถไฟฟ้าสายสีม่วงในเดือน ส.ค.นี้ และ CPALL รับปัจจัยบวกการบริโภคที่คาดจะเพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลฟุตบอลยูโร 2016