หุ้นเช้าปิดลบ 1.21 จุด ตามทิศทางหุ้นโลกซึ่งมีความวิตกเฟดขึ้นดอกเบี้ย ทำให้ตลาดหุ้นไทยไม่สามารถต้านกระแสความกังวลดังกล่าวได้ ขณะที่ Fund Flow ไหลออก และคาดว่าตลาดฯ อยู่ในสถานการณ์แบบนี้ไปจนถึงเดือน มิ.ย.นี้ แต่เชื่อว่าดัชนีฯ จะไม่ปรับลงไปมาก เพราะผลประกอบการ บจ.ที่ออกมาดี
นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ กรรมการผู้จัดการสายงานวิจัย บล.เอเชีย เวลท์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ (24 พ.ค.) ปรับลงทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลกส่วนใหญ่ ยกเว้นตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ปัจจัยหลักมาจากความกังวลธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย.นี้ ซึ่งบ้านเราก็ไม่สามารถต้านกระแสความกังวลดังกล่าวได้จึงเทรดในแดนลบเช่นกัน ขณะที่มองเม็ดเงินลงทุนของต่างชาติไหลออกด้วย ทั้งนี้ คาดว่าตลาดฯ อยู่ในสถานการณ์แบบนี้ไปจนถึงเดือน มิ.ย.นี้
ปัจจัยสำคัญยังคงต้องติดตามถ้อยแถลงของ นางเจนเนต เยนเลน ประธานเฟด ในวันศุกร์ที่ 27 พ.ค.นี้ ว่า จะมีมุมมองต่อการขึ้นดอกเบี้ยอย่างไร หากมีความเห็นออกมาทิศทางเดียวกับเจ้าหน้าที่เฟดก่อนหน้านี้ ก็อาจจะส่งผลให้ตลาดหุ้นปรับตัวลงต่อ แต่หากตัวเลขเศรษฐกิจ และผลกำไรบริษัทจดทะเบียนช่วงหลังออกมาดีก็น่าจะทำให้ตลาดหุ้นค่อยๆ รีบาวนด์ เพราะตลาดหุ้นที่ปรับลงช่วงนี้ส่วนหนึ่งมาจากตัวเลขเศรษฐกิจหลายประเทศที่ออกมาไม่ค่อยดีด้วย
ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,380.48 จุด ลดลง 1.21 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.09% มูลค่าการซื้อขาย 16,115.76 ล้านบาท
สำหรับสัปดาห์นี้ให้กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีที่ 1,372-1,387 จุด มองว่าคงแกว่งตัวในกรอบนี้ตลอดทั้งสัปดาห์ หากในประเทศไม่มีปัจจัยบวก/ลบชัดเจน แต่คงไม่ปรับลงไปมาก ส่วนหนึ่งเพราะกำไร บจ.ใน SET ไตรมาส 1/59 ที่ออกมาดีเป็นตัวหนุนดัชนีให้ยืนอยู่ในระดับนี้ได้