เอเอฟพี - น้ำมันฟื้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 12 ปีเมื่อวันพฤหัสบดี (21 ม.ค.) ด้วยนักวิเคราะห์อ้างถึงภาวะเทขายมากเกินไปในระยะหลัง ปัจจัยนี้ประกอบกับความเคลื่อนไหวของอีซีบีดันวอลล์สตรีทพุ่งแรง ส่วนทองคำปรับลดจากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 1.18 ดอลลาร์ ปิดที่ 29.53 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกันเพิ่มขึ้น 1.37 ดอลลาร์ ปิดที่ 29.25 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
แรงช้อนซื้อในวันพฤหัสบดี (21 ม.ค.) มีขึ้นตามหลังราคาน้ำมันดิบทั้งสองสัญญาร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 12 ปีเมื่อวันพุธ (20 ม.ค.) ขณะที่นักวิเคราะห์ชี้ว่าตลาดน้ำมันกำลังมองหาจุดต่ำสุด หลังจากดิ่งลงมาเกือบ 70 เปอร์เซ็นต์ในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา
ความเคลื่อนไหวในแดนบวกของราคาน้ำมันมีขึ้นขณะที่รายงานกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ เผยในวันพฤหัสบดี (21 ม.ค.) ว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศในสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มขึ้นถึง 4.0 ล้านบาร์เรล แต่น้อยกว่าที่คาดหมายไว้
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี (21 ม.ค.) ขยับขึ้นพอสมควร หลังน้ำมันฟื้นตัว และนายมาริโก ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรป แย้มว่าอาจดำเนินการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
ดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 115.94 จุด (0.74 เปอร์เซ็นต์) ปิด 15,882.68 จุด เอสแอนด์พีเพิ่มขึ้น 9.66 จุด (0.52 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,868.99 จุด แนสแดคเพิ่มขึ้น 0.37 จุด (0.01 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,472.06 จุด
ในความเคลื่อนไหวที่ช่วยหนุนตลาดหุ้นโลกและตลาดหุ้นสหรัฐฯ ธนาคารกลางยุโรปตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยไว้ตามเดิม และนายดรากิแย้มว่ามีความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางแห่งนี้จะทบทวนนโยบายการเงินอย่างเร็วที่สุดในเดือนมีนาคม
อีกปัจจัยหนึ่งที่สนับสนุนตลาดคือราคาน้ำมันที่ฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในรอบ 12 เดือน หลังจากสต๊อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นไม่มากในระดับที่กังวลกัน
ส่วนราคาทองคำในวันพฤหัสบดี (21 ม.ค.) ปรับลดจากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น และการฟื้นตัวของตลาดหุ้นโลก โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 8.00 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,098.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์