“สบน.” เผยยอดจองซื้อพันธบัตรออมทรัพย์ของกระทรวงคลัง ตั้งแต่ 12 พ.ค.ถึงล่าสุด แตะ 5,500 ล้านบาท “คลัง” เผยพอใจต่อยอดคนจองซื้อ เนื่องจากอยู่ในภาระดอกเบี้ยต่ำ และคนซื้อพันธบัตรรัฐบาลส่วนใหญ่ยังเป็นขาประจำเพราะมีความเสี่ยงเป็นศูนย์ จึงต้องการลดความเสี่ยงจากการลงทุนด้านอื่น มั่นใจครบกำหนดสิ้น ส.ค.ขายได้เกลี้ยง
นางสุณี เอกสมทราเมษฐ์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า หลังจากกระทรวงการคลัง ออกจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ อายุ 5, 10 ปี วงเงิน 20,000 ล้านบาท เปิดจำหน่ายระหว่างวันที่ 12 พฤษภาคม 2559 ถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2559 ยอดจำหน่ายขณะนี้มี จำนวน 5,500 ล้านบาท นับเป็นยอดจำหน่ายที่น่าพอใจ เนื่องจากอยู่ในภาระดอกเบี้ยต่ำ และคนซื้อพันธบัตรรัฐบาลส่วนใหญ่ยังเป็นขาประจำเพราะมีความเสี่ยงเป็นศูนย์ จึงต้องการลดความเสี่ยงจากการลงทุนด้านอื่น และในช่วงระยะเวลาที่เหลืออยู่คาดว่าจะขายพันธบัตรรัฐบาลได้ครบตามจำนวน หลังจากกำหนดขายพันธบัตรออมทรัพย์ให้แก่ประชาชนรายย่อย งวดแรกเปิดขายไปแล้วช่วงต้นปี วงเงิน 5 หมื่นล้านบาท และงวดนี้อีก 2 หมื่นล้านบาท หากจะจำหน่ายเพิ่มคงต้องพิจารณาในปีต่อไป
ทั้งนี้ พันธบัตรออมทรัพย์ รุ่นอายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ยแบบขั้นบันได ปีที่ 1 อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1.75 ต่อปี ปีที่ 2-3 อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2.00 ต่อปี ปีที่ 4 อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2.50 ต่อปี ปีที่ 5 อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3.00 ต่อปี รุ่นอายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ยขั้นบันได ปีที่ 1-5 อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2.25 ต่อปี ปีที่ 6-9 อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3.00 ต่อปี ปีที่ 10 อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3.50 ต่อปี วงเงินซื้อต่อรายขั้นต่ำ 1,000 บาท สูงสุด 2 ล้านบาทต่อรายต่อธนาคาร จองซื้อผ่านธนาคารตัวแทนจำหน่าย ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
สำหรับภาระหนี้สาธารณะของประเทศ ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2559 มียอดหนี้คงค้าง 6.013 ล้านล้านบาท หรือร้อยละ 44.03 ของจีดีพี โดยยอดหนี้ที่เพิ่มสูงขึ้น 7,862 ล้านบาท เนื่องจากการกู้เงินสำหรับสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สีเขียว สีม่วง สีแดง และการขยายช่องทางจราจรเป็น 4 ช่องทางของกรมทางหลวง และการชำระหนี้เดิมของรัฐบาล