สยามแก๊สฯ เผยผลประกอบการไตรมาส 1/2559 ทำกำไรสุทธิ 40.16 ล้านบาท เพิ่มจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 0.36 ล้านบาท เนื่องจากยอดขายปลีกในต่างประเทศเติบโตขึ้นมากกว่า 27% คาดไตรมาส 2/59 แนวโน้มดีต่อเนื่องจากไตรมาสแรกที่ผ่านมา มั่นใจปีนี้ยอดขายเข้าเป้าที่ 3 ล้านตันได้ ขณะที่รายได้จะเติบโตขึ้นได้ราว 5% จากปี 58 ที่ผ่านมา หรือราว 6 หมื่นล้านบาท
นางจินตณา กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SGP เปิดเผยถึงแนวโน้มผลงานการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 2/59 คาดว่ามีโอกาสปรับตัวดีขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาส 1/59 เนื่องจากแนวโน้มราคาก๊าซ LPG ในตลาดโลกมีการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง จากสภาวะของน้ำมันที่เริ่มมีการรีบาวนด์กลับมาเคลื่อนไหวที่ 40 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ส่งผลให้ในช่วง 2 เดือนของไตรมาส 2 ราคาก๊าซ LPG เพิ่มขึ้น 47.5 เหรียญสหรัฐต่อตัน ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้รายได้ของบริษัทเติบโตตามไปด้วย
ขณะที่แผนการดำเนินธุรกิจในปี 59 บริษัทฯ คาดว่ารายได้จะเติบโตขึ้นราว 5% จากปี 58 ซึ่งมีรายได้ที่ 5.8 หมื่นล้านบาท และมียอดการขายก๊าซเติบโต 5% หรือคิดเป็นปริมาณการขายก๊าซราว 3.0 ล้านตัน เปรียบเทียบกับปี 58 ที่ปริมาณการขายก๊าซอยู่ที่ 2.85 ล้านตัน โดยมีปัจจัยสนับสนุนมาจากปริมาณการขายก๊าซในต่างประเทศเป็นหลัก โดยบริษัทเน้นกลยุทธ์ในการขายปลีกเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งในปี 59 บริษัทได้ขออนุญาตในการนำเข้าก๊าซ LPG เพื่อส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านที่ติดกับชายแดนของประเทศไทย ซึ่งจะช่วยเพิ่มยอดขายมากขึ้นจากปีก่อนที่ยังไม่มียอดขายส่งออกในส่วนนี้
“ในส่วนของการลงทุน บริษัทฯ ยังคงเน้นการลงทุนในส่วนของธุรกิจก๊าซ LPG เป็นหลัก โดยวางแผนในการขยายตลาดไปยังประเทศพม่า ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ซึ่งทั้ง 3 ประเทศ บริษัทยังไม่มีคลังก๊าซในประเทศนั้นๆ แต่มีลูกค้าแล้วในปัจจุบัน ซึ่งหากบริษัทมีคลังก๊าซในประเทศดังกล่าวก็จะสามารถเพิ่มยอดขายปลีกได้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้บริษัทเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในอนาคต โดยปัจจุบัน อยู่ระหว่างพิจารณาวิธีการเข้าไปลงทุนว่าจะลงทุนในรูปแบบใด”
สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อยงวดไตรมาสที่ 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2559 ว่า บริษัทฯ มีผลกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ จำนวน 40.16 ล้านบาท เปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2558 ซึ่งมีผลกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ จำนวน 0.36 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 39.80 ล้านบาท ถึงแม้ในช่วงไตรมาสที่ 1/2559 ราคาก๊าซ LPG ในตลาดโลกจะปรับตัวลดลงกว่า 162.5 เหรียญสหรัฐก็ตาม แต่เนื่องจากบริษัทได้เพิ่มยอดค้าปลีกในต่างประเทศมากขึ้นกว่า 49% หรือเพิ่มขึ้นจาก 321,000 ตันเป็น 408,000 ตัน โดยเฉพาะยอดขายในประเทศจีนเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เติบโตขึ้นกว่า 62% จาก 148,000 ตัน เป็น 239,000 ตัน ส่งผลให้บริษัทมีมาร์จิ้นเพิ่มขึ้น และได้รับผลกระทบจากราคาก๊าซ LPG ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน โดยบริษัทมีกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจาก 2.78% ในไตรมาสที่ 1/2558 เป็น 4.06% ในไตรมาสที่ 1/2559 ในส่วนของรายได้ที่ลดลงเป็นผลมาจากราคาก๊าซ LPG ในตลาดโลกลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยไตรมาสที่ 1/58 ราคาก๊าซ LPG เฉลี่ยอยู่ที่ 464 เหรียญสหรัฐต่อตัน แต่ในไตรมาสที่ 1/59 ราคาก๊าซ LPG เฉลี่ยอยู่ที่ 324 เหรียญสหรัฐต่อตัน หรือลดลงกว่า 140 เหรียญสหรัฐต่อตัน ส่งผลให้ราคาขายก๊าซ LPG ทั้งในประเทศ และต่างประเทศมีการปรับตัวลงในช่วงที่ผ่านมา