เอเชีย กรีน เอนเนอจี แจ้งไตรมาสแรกโชว์กำไรสุทธิ 14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 114% จากปีก่อน และมีรายได้รวม 940 ล้านบาท จากนโยบายลดต้นทุน และการเพิ่มประสิทธิภาพ ด้าน “พนม ควรสถาพร” กรรมการผู้จัดการ เผยยังเน้นแผนลดต้นทุน ตั้งเป้ารายได้รวมโต 10%
นายพนม ควรสถาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) หรือ AGE เปิดเผยถึงผลประกอบไตรมาส 1/2559 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2559 ว่า บริษัทฯ มีรายได้ 940 ล้านบาท ลดลง 31.40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งบริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,370 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 114% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 6 ล้านบาท
ทั้งนี้ สาเหตุที่บริษัทมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นเนื่องจากนโยบายลดต้นทุนทั้งจากคลังสินค้า การขนส่ง และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน พร้อมเน้นขยายตลาดในประเทศ ปริมาณการขายถ่านหินในประเทศในไตรมาส 1/2559 อยู่ที่ 0.45 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 4% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ 0.43 ล้านตัน
“ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2559 ถือว่าเป็นที่น่าพอใจ จากกลยุทธ์การลดต้นทุน และการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และเพิ่มผลตอบแทนจากธุรกิจ เป็นผลให้กำไรขั้นต้นของบริษัทปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างชัดเจนเป็น 14.2% และมีกำไรสุทธิที่ 14 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/58 ที่มีกำไรสุทธิ 6 ล้านบาท รายได้รวมในไตรมาสนี้ปรับตัวลดลงจากปีที่แล้ว เนื่องจากยอดขายในต่างประเทศที่ปรับตัวลดลง แต่บริษัทยังมีการเติบโตของปริมาณการขายในประเทศที่ 4% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/58” นายพนม กล่าว
ดังนั้น บริษัทตั้งเป้าปริมาณยอดขายถ่านหินไว้ที่เพิ่มขึ้น 10% จากปี 2558 โดยเน้นการขยายยอดขายภายในประเทศ และเปิดตลาดขายถ่านหินไปยังกลุ่มประเทศอาเซียน
โดยในปี 2558 ที่ผ่านมา บริษัทได้ดำเนินแผนการลดต้นทุน ในคลังสินค้า ท่าเรือ และระบบขนส่ง ทำให้ผลการดำเนินงานปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น และได้มีการจ่ายปันผลจากผลการดำเนินงานในปี 2558 ที่ 0.05 บาทต่อหุ้น ไปเมื่อวันที่ 11 พ.ค.2559 โดยในปีนี้บริษัทยังคงเน้นนโยบายลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน รวมทั้งการนำทรัพย์สินที่มีอยู่ซึ่งก็คือ ท่าเรือ และคลังสินค้ามาให้บริการเพื่อเพิ่มรายได้ที่มั่นคง อีกทั้งช่วยลดความผันผวนจากภาวะตลาด ซึ่งบริษัทเชื่อว่านโยบายที่กำลังดำเนินอยู่จะช่วยเพิ่มผลตอบแทนจากธุรกิจถ่านหิน และผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นให้เติบโตอย่างมั่นคง